องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า WHO กำลังจับตายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในจีน ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่าไวรัสโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2 เป็นต้นตอของการระบาดในครั้งนี้
แพทย์หญิงเคท โอเบรียน ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิคุ้มกันและวัคซีนของ WHO กล่าวว่า ทางหน่วยงานได้ประสานงานเรื่องการระบาดของโควิด-19 กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในจีน โดยเจ้าหน้าที่ของ WHO จำเป็นต้องติดตามประสิทธิภาพของมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ และการฉีดวัคซีนในจีน ซึ่งยังไม่มีข้อมูลมากเพียงพอที่จะประเมินสถานการณ์ได้ในขณะนี้
“เราจะยังติดตามสถานการณ์ต่อไปเนื่องจากยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง และประเมินการรับมือสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่เพื่อทำความเข้าใจถึงลักษณะการแพร่ระบาด สถานะการฉีดวัคซีน และปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ในจีน”
แพทย์หญิงโอเบรียนแถลงจากสำนักงานใหญ่ของ WHO
ขณะที่นายแพทย์อเลฮานโดร คราวิโอโต ประธานคณะที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของ WHO กล่าวว่า “ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่การตรวจสอบว่ามาตรการล็อกดาวน์ในจีนช่วยควบคุมการระบาดล่าสุดได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ โดยเฉพาะกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อย BA.2 ซึ่งแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าโควิดสายพันธุ์เดิม แม้ผู้ติดเชื้อจะมีอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลยก็ตาม”
การแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่จีนพยายามต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่พบการระบาดที่เมืองอู่ฮั่นเมื่อสองปีก่อน โดยรัฐบาลจีนได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ของประเทศ ขณะที่โรงเรียนต้องเปลี่ยนไปจัดการเรียนการสอนทางออนไลน์แทน หลังจากที่เซี่ยงไฮ้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 26,087 ราย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (10 เม.ย.) เพิ่มขึ้นจากระดับ 9,006 รายที่พบเมื่อวันที่ 3 เม.ย.
ข้อมูลจากเว็บไซต์ “Our World in Data” ระบุว่า นับจนถึงวันที่ 5 เม.ย. ประชาชนในจีน 88.5% ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 เม.ย. 65)
Tags: BA.2, COVID-19, WHO, เซี่ยงไฮ้, โควิด-19