ผ่านมาแล้วกว่า 7 เดือนต้องบอกว่าการลงทุนตลาดหุ้นไทยปีนี้น่าจะไม่ค่อยสมูทกันเลย ต่างกับตลาดต่างประเทศที่ต้นปีคาดหมายว่าตลาดจะปรับตัวลงแต่เอาเข้าจริง กลับ Perform ได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นสหรัฐ ตลาดหุ้นยุโรป ญี่ปุ่น สามารถทำผลตอบแทนได้สูงมากสวนทางกับปีที่แล้วที่แย่ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทค ปรับตัวขึ้นไปกว่า 40% ยกเว้นตลาดจีน
และในช่วงนี้จนถึงสิ้นปีนี้ จะเป็นจังหวะลงทุนหรือไม่หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ใกล้ยุติการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ ให้ความเห็นว่า หลายๆโบรกเกอร์ต่างประเทศเริ่มปรับมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐว่าจะไม่เกิดเศรษฐกิจถดถอย(Recession) เพียงแต่เศรษฐกิจเติบโตช้าลง ในช่วงนี้จนถึงสิ้นปีนี้ต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจ อาทิ เงินเฟ้อ
กลยุทธ์การลงทุนจะปรับอย่างไรให้เข้ากับสถานการณ์ โดยนายสาห์รัช แนะนำว่า พอร์ตลงทุนควรมีสัดส่วนการลงทุนหุ้น 60% อีก 40% ลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยหรือต่างประเทศทั้งรัฐและเอกชน โดยในส่วนลงทุนตลาดหุ้น แนะเลือกลงทุนหุ้นสหรัฐและกลุ่มเฮลท์แคร์ 30% และอีก 30% ลงทุนจีน อินเดีย เวียดนาม และไทย ซึ่งตลาดจีน และเวียดนาม คาดว่าเศรษฐกิจจะพลิกฟื้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 66)
Tags: WealthMePlease, จีน, ตลาดหุ้น, สหรัฐ, เวียดนาม