นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.วีจีไอ (VGI) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 64/65 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,429 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และแม้ว่ารายรับจะเพิ่มขึ้นแต่บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 76 ล้านบาท สาเหตุมาจากส่วนแบ่งขาดทุนจากกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วม ทั้งนี้ รายได้ของธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านปรับลดลง 5% จากช่วงปีก่อน เป็น 436 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 3 เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางการเติบโตของรายได้แบบไตรมาสต่อไตรมาสอยู่ที่ 48% และมีรายได้ของธุรกิจบริการด้านดิจิทัล 312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากค่าคอมมิชชั่นประกันภัยและการสร้างโอกาสในการขาย รวมถึงมีรายได้จากธุรกิจการจัดจำหน่ายอยู่ที่ 681 ล้านบาท ด้านธุรกิจบริการชำระเงิน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการให้บริการด้านดิจิทัลและออนไลน์ผ่านกลุ่มแรบบิทที่เป็นผู้นำด้านดิจิทัลโซลูชั่นส์อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัท แรบบิท ไลน์ เพย์ ให้บริการผู้ใช้งานมากกว่า 9.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.1% และมีจำนวนบัตรแรบบิทถึง 14.8 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบปีต่อปี
สำหรับธุรกิจการจัดจำหน่าย มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดเปิดตัวแอปพลิเคชั่นนำร่อง Rabbit Selection ซึ่งบริหารงานโดย Fanslink ภายใต้แนวคิด Good life is not expensive ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสมจากผู้ผลิตที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งนี้จะทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสบการณ์การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้อย่างไร้รอยต่อและราบรื่น ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
แม้ในปัจจุบันประเทศกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดล่าสุดของโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยน้อยกว่าการระบาดในครั้งก่อน เนื่องจาก Omicron มีอาการของโรคที่รุนแรงน้อยกว่าเดิม ผนวกกับการรับมือของภาครัฐและภาคประชาชนดีขึ้น ตลอดจนความคืบหน้าของกระบวนการการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการฉีดวัคซีนทั่วประเทศอยู่ที่ 74.9% จึงทำให้ประชาชนเริ่มกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติ ในขณะเดียวกันรัฐบาลกำลังมีแผนที่จะประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคระบาดเฉพาะถิ่นภายในสิ้นปีนี้ จึงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 3.4% ในปี 65
จากการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่แม้ยังไม่ถึงระดับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด ประกอบกับการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในบมจ.เจ มาร์ท (JMART) เพื่อขยายระบบนิเวศทางธุรกิจของบริษัทฯ โดยธุรกรรมดังกล่าวส่งผลให้เงินกู้ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 8,200 ล้านบาท ทั้งนี้บอร์ด VGI ได้มีมติอนุมัติให้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ควบคู่กับการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ (VGI-W3) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยการเพิ่มทุนในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ และเสริมสภาพคล่องที่มั่นคงด้านฐานะการเงินของบริษัทฯ และเพื่อการลงทุนในธุรกิจใหม่ในอนาคต ด้วยสถานะทางการเงินที่มีสภาพคล่องอย่างมั่นคงของบริษัทฯ จึงเชื่อมั่นว่าจะทำให้ VGI สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมส่งมอบผลประโยชน์สูงสุดให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายเมื่อสถานการณ์กลับสู่ปกติอีกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.พ. 65)
Tags: VGI, วีจีไอ, หุ้นไทย, เนลสัน เหลียง