TRUE ปรับลง 4.29% หรือลดลง 0.35 บาท มาที่ 7.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 944.48 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.27 น.จากราคาเปิด 8.00 บาท ราคาสูงสุด 8.05 บาท ราคาต่ำสุด 7.70 บาท
บล.กรุงศรี ระบุว่า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ยังขาดทุนอยู่ในไตรมาส 1/66 ซึ่งผิดจากประมาณการของเรา และตลาด โดยหลังจากที่ควบรวมกับบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 TRUE รายงานผลกำไรแบบ pro forma basis ในไตรมาส 1/66 ซึ่งผลการดำเนินงานออกมาแย่กว่าที่เราและตลาดคาดเอาไว้ โดยมีผลขาดทุน (สุทธิ 492 ล้านบาท และขาดทุนจากธุรกิจหลัก 1.29 พันล้านบาท)
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลการดำเนินงานออกมาน่าผิดหวังคือรายได้ที่ลดลงจากทั้งธุรกิจมือถือ และ FBB โดยรายได้จากธุรกิจมือถือลดลง 2.5% yoy และ 1.7% qoq ในขณะที่รายได้จากธุรกิจ FBB ลดลง 2.3% yoy และ 0.9% qoq เพราะ ARPU ของทั้งสองธุรกิจลดลง
บล.กรุงศรีจะทบทวนประมาณการกำไรปี 2566 ใหม่หลังจากที่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้บริหารใน conference call
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานจะอ่อนแอในไตรมาส 1/66 แต่เราคาดว่าน่าจะดีขึ้น qoq ในไตรมาสหน้า เพราะ TRUE ได้ทำการยกเลิกแพ็คเกจราคาถูกไปในเดือนมีนาคม 2566 เช่นเดียวกับ ADVANC ดังนั้น เราจึงคาดว่า ARPU ในไตรมาส 2/66 น่าจะนิ่งขึ้นกว่าในไตรมาส 1/66 นอกจากนี้ เรายังคาดว่าจะเห็นความพยายามลดต้นทุนหลังการควบรวมในไตรมาส 2/66 ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนกำไรในไตรมาส 2/66 ได้อีกทางหนึ่งด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 66)
Tags: TRUE, ทรู คอร์ปอเรชั่น, ผลการดำเนินงาน, หุ้นไทย