นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ที คิว อาร์ (TQR) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง ยังมีทิศทางที่ดี เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการทำประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งประกันภัยไซเบอร์ที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ TQR จึงได้เข้าร่วมลงทุนใน บริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด โดยถือหุ้นในสัดส่วน 30% ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดทำระบบฝึกอบรม ทดสอบ ตรวจสอบ เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลระบบสารสนเทศและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยให้ TQR สามารถขยายฐานลูกค้าด้านประกันภัยไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ สามารถสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต
รวมทั้ง จะได้รับประโยชน์ทางด้านอื่นๆ เช่น ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี ซึ่งหากดำเนินธุรกิจได้ตามแผน คาดว่า จะช่วยผลักดันให้รายได้ในส่วนของธุรกิจประกันภัยไซเบอร์เพิ่มขึ้นประมาณ 20%
สำหรับการรับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่ตลาดมีความต้องการสูง เนื่องจากกระแสความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับมาตรการของภาครัฐในการสนับสนุนและส่งเสริมให้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า
“เราคาดว่าการเติบโตของธุรกิจประกันภัยจะเติบโตขึ้นประมาณ 5-7% จากแนวโน้มการเติบโตทางด้านรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล รวมทั้ง การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวของไทย ที่เริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด จะส่งผลดีต่อการประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มท่องเที่ยว เช่น ประกันอุบัติเหตุ ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยทรัพย์สิน ที่จะเติบโตมากในช่วงปลายปีนี้ สอดรับกับการที่ประเทศไทยจะได้รัฐบาลใหม่ ซึ่งจะทำให้บริษัทประกันภัยต่างๆ มีการทำประกันภัยต่อเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย จึงมั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้ จะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนผลงานในปีนี้เติบโตที่ระดับ 10%” นายชนะพันธุ์กล่าว
นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQR กล่าวถึงการทำงานร่วมกับ บมจ.ทีคิวเอ็ม อัลฟา (TQM) ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่อยู่อาศัย และประกันสุขภาพ ปัจจุบันได้มีการศึกษาและทำงานร่วมกันในหลายผลิตภัณฑ์ เช่น ประกันภัยเสริมจากประกันคุ้มภัย ที่นอกเหนือจากความคุ้มครองของประกันรถยนต์ทั่วไป (Motor Add On), ประกันภัยรถยนต์ EV, ประกันอุบัติเหตุ (Personal Accident), และ Insurance Product for Gender Equality ซึ่ง TQR จะวางแผนในการพัฒนาประกันภัยต่อ เพื่อกระจายความเสี่ยงภัยให้กับบริษัทประกันภัย
ขณะเดียวกัน มีการพัฒนาประกันภัยต่อด้านการประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพ (Professional Indemnity) การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล การประกันที่เกี่ยวข้องกับกระแสของ Environmental, Social and Governance : ESG รวมถึงธุรกิจประกันภัยการเดินทาง ธุรกิจการประกันภัยสุขภาพ และขณะนี้ TQR อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตการเป็นนายหน้าประกันภัยต่อสำหรับประกันชีวิต กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) คาดว่า จะเห็นความชัดเจนภายในปลายปีนี้
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 51.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.87% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 51.47 ล้านบาท และมีรายได้รวม 130.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.41% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวม 121.39 ล้านบาท ขณะที่ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 มีรายได้รวม 64.01 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 25.20 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ส.ค. 66)
Tags: TQR, ชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์, ที คิว อาร์, ประกันภัยไซเบอร์, หุ้นไทย, อัลฟ่าเซค