TIDLOR ปรับขึ้น 2.91% หรือเพิ่มขึ้น 0.60 บาท มาที่ 21.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 587.08 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.49 น. จากราคาเปิด 20.80 บาท ราคาสูงสุด 21.20 บาท ราคาต่ำสุด 20.60 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า จากการประชุมนักวิเคราะห์ บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) ไม่เร่งขยายสินเชื่อจนเกินไป
นอกจากนี้ มีสัญญาณดีขึ้นจากการที่รายได้ค่าธรรมเนียมโตเร็วกว่าที่วางแผนเอาไว้ บริษัทสามารถเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมได้ประมาณ 28% YoY ซึ่งเร็วกว่าที่วางแผนเอาไว้ที่ 20-25% ในขณะเดียวกัน การเร่งเพิ่มจำนวนพนักงานขายทางโทรศัพท์ หรือ telesales (จาก 600 คนใน 1Q66 เป็น 700 คนใน 2Q66) และการเร่งเพิ่มจำนวนตัวแทน (จาก 6700 คนใน 1Q66 เป็น 11,000 คนใน 2Q66) น่าจะช่วยหนุนให้รายได้ค่าธรรมเนียมแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากการเป็นนายหน้าประกันในงวด 2H66
เห็นสัญญาณบวกจากการที่คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น บริษัทสามารถรักษาสัดส่วน NPL ให้คงอยู่ในระดับต่ำได้ที่ 1.5% ใน 1H66 (เท่ากับในปี 2565) จากเป้าเต็มปีที่ <1>
เราเห็นสัญญาณว่าผลประกอบการของ TIDLOR น่าจะเริ่มทรงตัว เพราะบริหารจัดการ credit cost ได้มากขึ้น และ NPLs นิ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรามองว่าอุตสาหกรรมมีแนวโน้มจะยากลำบากมากขึ้น และมีความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลเพื่อคุมหนี้ครัวเรือนมากขึ้น ดังนั้น เราจึง de-rate PE ของกลุ่ม non-bank ลงจากสมมติฐานเดิมประมาณ 15% โดยเราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายที่อิงจากประมาณการกำไรเฉลี่ยสองปี และ PE ใหม่ที่ 16.5x (ลดงงจากเดิมที่ 20x) ทำให้ได้ราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าใหม่ที่ 27 บาท (จากเดิมที่ 30.50 บาท) และยังคงคำแนะนำซื้อ
บล.แลนด์ & เฮ้าส์ ระบุว่า แม้กำไร 2Q66 ลดลง -3%QoQ /-6%YoY แต่ยังถือว่าทำได้ตามแผน ยังคงเป้าทั้งปีไว้ที่เดิมทุกอย่าง และเชื่อว่าทั้งปี 66 กำไรยังเติบโตจากปีก่อน +8% และทำนิวไฮต่อเนื่อง โดยราคาที่ปรับลงมาลึกเกินพื้นฐานที่ควรจะเป็น ถือเป็นโอกาสเข้าซื้อลงทุน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 66)
Tags: TIDLOR, ทะเบียนรถ, สินเชื่อ, สินเชื่อทะเบียนรถ, หุ้นไทย, เงินติดล้อ
1>