THREL แจ้งงบ Q3/66 กำไรต่อเนื่อง QoQ มั่นใจโค้งสุดท้ายสดใสหนุนเบี้ยประกันภัยต่อรับพุ่งทะลุเป้า

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยรีประกันชีวิต (THREL) เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/66 ว่า บริษัทพลิกมีกำไรต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรจากการรับประกันภัยจำนวน 15 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามเบี้ยประกันภัยต่อรับที่เติบโตกว่า 25% แตะ 981 ล้านบาท

THREL รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/66 พลิกเป็นขาดทุน 14.67 ล้านบาท ก่อนจะฟื้นตัวพลิกมาเป็นกำไรในไตรมาส 2/66 ที่ 32.27 ล้านบาท แต่ผลงานไตรมาส 3/66 ยังคงต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 30.14 ล้านบาท

โดยเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิเติบโต 15% แตะ 871 ล้านบาทนไตรมาส 3/66 ซึ่งเป็นผลมาจากกลุ่มงานประกันสุขภาพ ทั้งแบบรายบุคคลและแบบรายกลุ่ม เติบโตดีต่อเนื่องตามภาพรวมอุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีรายได้จากการลงทุนสุทธิงวดไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 21 ล้านบาท แม้จะเผชิญกับสภาพตลาดเงินตลาดทุนที่ค่อนข้างผันผวน ส่งผลให้ภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 66 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 48 ล้านบาท โดยเบี้ยประกันภัยต่อรับเติบโตแตะ 2,647 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิเติบโตอยู่ที่ 2,370 ล้านบาท

สำหรับค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยรวมเพิ่มขึ้นราว 15% อยู่ที่ 857 ล้านบาท จากค่าสินไหมทดแทน (เคลม) ที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 628 ล้านบาท ตามการเติบโตของเบี้ยประกัน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญกับการคุมเข้มคุณภาพการรับงาน เพื่อรักษาศักยภาพการเติบโต ควบคู่ไปกับขีดความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มขยับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยงวดไตรมาส 3/66 บริษัทฯยังคงรักษาอัตรา Combined Ratio (COR) ให้อยู่ในระดับที่ยังยอมรับได้ราว 98%

นายสุทธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดบริษัทฯเร่งเดินหน้าผนึกความร่วมมือพันธมิตรขยายฐานลูกค้าภายในประเทศ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความเหมาะสม สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ ตอบสนองความต้องการลูกค้าแบบเฉพาะรายบุคคลได้อย่างลงตัวมากขึ้น ควบคู่ไปกับการเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน เบื้องต้นมั่นใจช่วงโค้งสุดท้ายของปีเติบโตสดใสต่อเนื่อง หนุนภาพรวมเบี้ยประกันภัยต่อรับเติบโตกว่า 10% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้าที่ 4-5%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 66)

Tags: , , ,