บมจ.ไทยคม (THCOM) เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 1/67 ว่า บริษัทมีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 288 ล้านบาท เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น 220% จากไตรมาส 1/66 (YoY) ที่มีกำไรสุทธิ 90 ล้านบาท และพลิกกลับมาเป็นกำไรได้หลังปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 4/66 (QoQ) ที่มีผลขาดทุน 306 ล้านบาท
โดยในไตรมาส 1/67 เงินบาทได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งบริษัทเป็นผู้ส่งออกที่มีฐานลูกค้าต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่และรายได้ของบริษัทส่วนมากอยู่ในสัญญาที่อ้างอิงกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้น การอ่อนค่าของเงินบาทส่งผลบวกต่อรายได้รวมและกำไรสุทธิของบริษัท โดยรายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 33% YoY และ 173% QoQ อยู่ที่ 910 ล้านบาท
บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการ จำนวน 609 ล้านบาท ใกล้เคียงกับรายได้จำนวน 629 ล้านบาทในไตรมาส 4/66 (QoQ) และลดลงจากไตรมาส 1/66 (YoY) จำนวน 735 ล้านบาทที่บริษัทรับรู้รายได้จากโครงการติดตั้งระบบสำหรับเครือข่ายบรอดแบนด์แบบครบวงจร (System Integration) และค่าที่ปรึกษาอื่นๆ
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/67 ดาวเทียมที่บริษัทให้บริการภายใต้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ได้แก่ ดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 มีอัตราการใช้บริการของลูกค้าเมื่อเทียบกับความสามารถในการให้บริการของดาวเทียม อยู่ที่ระดับ 62% ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติดต่อกัน จาก 59% ในไตรมาส 4/66 และ 56% ในไตรมาส 3/66 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของลูกค้าต่างประเทศ
สำหรับธุรกิจการให้บริการโทรศัพท์ในต่างประเทศ ในไตรมาส 1/67 บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ มหาชน (LTC) ได้รับปัจจัยเชิงบวกจากนโยบายการปรับโครงสร้างราคาค่าบริการโทรคมนาคมของกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร สปป.ลาว โดยมีการปรับขึ้นราคาค่าบริการ ทั้งอินเทอร์เน็ตสำหรับโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตบ้าน ด้วยเหตุดังกล่าว ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จึงได้ประกาศปรับขึ้นราคาค่าบริการเพื่อสอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.67 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้การรับรู้รายได้ของ แอลทีซี จากผลของการปรับโครงสร้างราคาค่าบริการมีผลเต็มที่ในไตรมาสที่ 2/67 เป็นต้นไป ซึ่งการปรับค่าบริการครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการทำกำไรของบริษัทในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ
บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับการใช้ประสิทธิภาพจากดาวเทียมดวงใหม่ อาทิ ดาวเทียมไทยคม 9 และ ดาวเทียมไทยคม 10 ซึ่งในปัจจุบัน ดาวเทียมไทยคม 10 ได้บรรลุข้อตกลงกับ Eutelsat Asia บริษัทในเครือ Eutelsat Group ผู้ให้บริการดาวเทียมชั้นนำของโลกจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะเป็นพันธมิตรในการเช่าช่องสัญญาณทั้งหมดจำนวน 50% เป็นระยะเวลา 16 ปี ตามอายุทางวิศวกรรมของดาวเทียม เพื่อความต่อเนื่องในการให้บริการและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น สนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจ
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะขยายการให้บริการในตลาดที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ เช่น ในประเทศไทย อินเดีย อินโดนีเซียฟิลิปปินส์ และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นในเรื่องของการเซ็นสัญญาให้บริการระยะยาวแก่กลุ่มลูกค้าปัจจุบัน เพื่อรักษาฐานลูกค้าได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง รวมถึงขยายการให้บริการบรอดแบนด์ เตรียมพร้อม เพื่อรองรับความต้องการการใช้ดาวเทียมดวงใหม่ที่กำลังจะมาถึงและสำหรับโครงการสำคัญ เช่น โครงการภาครัฐในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ รวมถึงให้บริการในเขตพื้นที่ห่างไกลในประเทศอินเดีย
บริษัทประกาศเลือก Astranis บริษัทผู้ผลิตและให้บริการดาวเทียมชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในการสร้างดาวเทียมไทยคม 9 ซึ่งเป็นดาวเทียมรุ่นใหม่ ที่จะถูกส่งขึ้นวงโคจรในปี 68 เพื่อความต่อเนื่องในการรองรับลูกค้าบนดาวเทียมไทยคม 4 และลูกค้าใหม่ โดยจะเพิ่มศักยภาพให้แก่วงโคจร 119.5 องศาตะวันออก ด้วยดาวเทียมเทคโนโลยี High Throughput Satellite ที่จะช่วยยกระดับการบริการของไทยคมให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ผ่านกระบวนการจัดสร้างดาวเทียมที่มีประสิทธิภาพ โดยดาวเทียมดวงนี้สามารถเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการเมื่อโคจรอยู่บนอวกาศ จากการติดตั้งระบบเทคโนโลยี Software-defined Radio ประสิทธิภาพสูง ทำให้สามารถปรับพื้นที่การให้บริการ จัดสรรช่องสัญญาณ ตลอดจนควบคุมย่านความถี่ ระดับพลังงาน และระบบการทำงานอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในแต่ละพื้นที่ได้ เพื่อเร่งตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ค. 67)