นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ (TFM) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจ TFM ในไตรมาสแรกปี 67 มียอดขายอยู่ที่ 1,249.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 1,152.2 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.4% เป็นผลจากการเติบโตของยอดขายอาหารกุ้งที่ปรับตัวขึ้นถึง 11.2% จากยอดขายอาหารกุ้งในประเทศอินโดนีเซีย และยอดขายอาหารปลากะพงที่เติบโตกว่า 32.8% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 201.1 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างแข็งแกร่งถึง 321.2% เป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนภายในโรงงาน การควบคุมประสิทธิภาพการผลิต และการบริหารจัดการพอร์ตสินค้าได้ตามกลยุทธ์ ทำให้บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนการขายได้ 5.1% รวมถึงผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยที่พลิกมีกำไร ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นจาก 4.1% มาอยู่ที่ 16.1% และมีมูลค่ากำไรสุทธิ อยู่ที่ 104 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 475% จากเดิมที่ช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุน 27 ล้านบาท
ขณะที่เมื่อเทียบสัดส่วนรายได้ในไตรมาสแรกปีนี้กับช่วงเดียวกันปีก่อน พบว่า กลุ่มอาหารกุ้งมีรายได้ 708.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.2% กลุ่มอาหารปลา 419.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8% กลุ่มอาหารสัตว์บก 96.2 ล้านบาท ขยายตัวลดลง 27.2% ซึ่งเป็นผลจากการปรับพอร์ตสินค้าของบริษัทในประเทศไทย ที่หันมามุ่งทำตลาดกลุ่มที่มีความสามารถในการทำกำไรได้ดี จึงทำให้อัตราส่วนรายได้อาหารสัตว์บกปรับตัวลดลง ยกเว้นในประเทศปากีสถานที่ขยายตัวถึง 28.8% เนื่องจากทดแทนยอดขายอาหารปลาที่ปรับตัวลดลง และรายได้จากการขายอื่น ๆ 24.8 ล้านบาท
“ภาพรวมไตรมาสแรกปีนี้เราสามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 104 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากำไรสุทธิของปีที่แล้วทั้งปี เนื่องจากมีการบริหารจัดการต้นทุนโรงงาน และการส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนา เพื่อให้สามารถออกแบบสินค้าได้หลากหลายตอบโจทย์ตรงใจลูกค้าและผู้บริโภค โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารกุ้ง ที่ได้มีการขยายตลาดในประเทศอินโดนีเซียดีมากจนทำให้ธุรกิจของเราในอินโดนีเซียสามารถสร้างกำไรได้เป็นไตรมาสแรก ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมของธุรกิจ TFM ที่มีสัญญาณการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญมาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา จากปริมาณความต้องการอาหารสัตว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในไตรมาสที่ผ่านมา” นายพีระศักดิ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ค. 67)
Tags: TFM, พีระศักดิ์ บุญมีโชติ, หุ้นไทย, ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์