นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง สัญญาณเปราะบางต่อรัฐบาล ในการเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 1,650 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 27 – 29 เมษายน พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา เมื่อถามถึงจุดยืนทางการเมืองต่อรัฐบาล พบว่าส่วนน้อยหรือร้อยละ 13.5 สนับสนุนรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 35.3 ไม่สนับสนุรัฐบาล และร้อยละ 51.2 ขออยู่ตรงกลาง เป็นพลังเงียบ
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงความตั้งใจจะเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็น ผู้ว่ากทม. พบว่า อันดับแรก หรือ ร้อยละ 20.6 จะเลือก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อันดับที่สอง หรือร้อยละ 15.1 จะเลือก นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อันดับสาม หรือร้อยละ 12.5 จะเลือก นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และรอง ๆ ลงไปคือ นาย สกลธี ภัททิยกุล ได้ร้อยละ 10.7 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้ร้อยละ 2.3 และอื่น ๆ ได้แก่ นางสาว รสนา โตสิตระกูล น.ต.ศิธา ทิวารี เป็นต้น ได้ร้อยละ 2.5 อย่างไรก็ตาม จำนวนมากหรือร้อยละ 36.2 ยังไม่ตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม ที่น่าจับตามองคือ คะแนนของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก อันดับที่ 5 หรือ ร้อยละ 5.6 ในครั้งก่อนมาอยู่ที่ อันดับที่ 2 หรือร้อยละ 15.2 ในการสำรวจครั้งล่าสุด และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากร้อยละ 17.7 มาอยู่ที่ร้อยละ 20.6 ห่างจากนายวิโรจน์ฯ ประมาณร้อยละ 5 เท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อแบ่งกลุ่มออกเป็น กลุ่มคนที่ติดตามรายการโทรทัศน์ ประชันวิสัยทัศน์หรือการ ดีเบต พบว่า นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้คะแนนสูงสุด หรือร้อยละ 24.2 นำหน้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในกลุ่มคนที่ติดตามมาก ถึง มากที่สุด ที่ได้คะแนนร้อยละ 19.9 แสดงให้เห็นว่า ยิ่งคนติดตามการดีเบต มากเท่าไหร่ ยิ่งมีแนวโน้มจะเลือก นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร มากยิ่งขึ้นตามไปด้วยจากร้อยละ 7.0 ในกลุ่มคนที่ติดตามน้อยถึงไม่ติดตามเลย มาอยู่ที่ร้อยละ 14.9 ในกลุ่มคนที่ติดตาม ปานกลาง และมาอยู่ที่ร้อยละ 24.2 ในกลุ่มคนที่ติดตามมากถึงมากที่สุด
นอกจากนี้ ในกลุ่มผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่อีกคนหนึ่งคือ นายสกลธี ภัททิยกุล มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามระดับการติดตามการประชันวิสัยทัศน์หรือการดีเบตเช่นกัน คือจากร้อยละ 7.4 ในกลุ่มคนที่ติดตามน้อยถึงไม่ติดตามเลย ร้อยละ 6.5 ในกลุ่มปานกลางและร้อยละ 19.1 ในกลุ่มคนที่ติดตามมากถึงมากที่สุด
ที่น่าพิจารณาคือ กลุ่มคนที่ สนับสนุนรัฐบาล อันดับแรก หรือ ร้อยละ 26.5 ระบุ นาย สกลธี ภัททิยกุล อันดับสองหรือร้อยละ 22.4 ระบุ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อันดับสาม ระบุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ร้อยละ 18.8 อันดับสี่ หรือร้อยละ 12.6 ระบุ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ในขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้เพียงร้อยละ 0.4 ในกลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐบาล ตามลำดับ
ที่น่าสนใจคือ ในกลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล พบว่า อันดับหนึ่งหรือร้อยละ 35.2 ระบุ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองลงมาคือ ร้อยละ 23.5 ระบุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อันดับสาม หรือร้อยละ 9.1 ระบุนาย สุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และตามด้วย นายสกลธี ภัททิยกุล ได้ร้อยละ 6.0 ในกลุ่มที่ไม่สนับสนุนรัฐบาล
ที่น่าสนใจคือ กลุ่มพลังเงียบที่เป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่สุด ระบุจะเลือก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ร้อยละ 19.0 รองลงมาคืออันดับที่สองได้แก่ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ร้อยละ 14.3 นายสกลธี ภัททิยกุล ร้อยละ 7.6 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ร้อยละ 5.1 ตามลำดับ
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า การเมืองสนาม กทม. กำลังส่งผลกระทบต่อฐานสนับสนุนรัฐบาลไปด้วยในหลายมิติ ขณะที่ เสียงสนับสนุน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กำลังมาแรงมากและภาพรวมกำลังจ่อต่อจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ยังนำหน้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในกลุ่มคนสองกลุ่มได้แก่ กลุ่มคนที่ติดตามรายการ ประชันวิสัยทัศน์หรือการดีเบต ตั้งแต่สมัครอย่างเป็นทางการถึงปัจจุบัน ที่มีนายสกลธี ภัททิยกุล แทรกอันดับอยู่ โดยนายวิโรจน์ฯ ขึ้นอันดับ 1 ในกลุ่มคนที่ไม่สนับสนุนรัฐบาล อย่างไรก็ตาม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ยังไม่สามารถเจาะเข้าไปในกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลและกลุ่มพลังเงียบมากนัก ซึ่งเป็นกลุ่มฐานเสียงที่ใหญ่สุดและเปลี่ยนแปลงได้ในทุกสิ่ง อยู่ที่การออกแบบของผู้สมัครแต่ละคน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 เม.ย. 65)
Tags: lifestyle, SUPER POLL, ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, ซูเปอร์โพล, นพดล กรรณิกา, ผลสำรวจ, วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, เลือกตั้งผู้ว่ากทม