นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์ปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า แผนการลงทุนในประเทศเวียดนาม ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรเพื่อขยายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในประเทศเวียดนามเพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในช่วงการเจรจาเบื้องต้น
อย่างไรก็ตาม แผนการขยายงานเพิ่มเติมในประเทศเวียดนาม บริษัทยืนยันว่าจะไม่ใช้แนวทางการเพิ่มทุน เนื่องด้วยมี 2 วิธีในการหาเงินทุน คือ การขายสินทรัพย์เข้ากองทุนเพื่อนำเงินมาสร้าง และการหาพันธมิตรในการขยายงาน
นอกจากนั้น นายจอมทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้มีคนเข้ามานำเสนอในเรื่องของการทำเหมืองขุดบิทคอยน์ แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า และ SUPER ยังไม่มีนโยบายชัดเจน แต่เนื่องด้วยปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 100% เพื่อขายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) แต่หากมีผู้ที่สนใจต้องการเข้ามาซื้อไฟฟ้าโดยตรงในอนาคตเพื่อรองรับการสร้างเหมืองขุดบิทคอยน์ บริษัทก็สามารถสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อรองรับได้
นายจอมทรัพย์ ยังเปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 65 ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตแตะ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท จากกำลังการผลิตที่จะเข้ามาเพิ่มอีกในโครงการ SPP Hybrid กำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์, โรงไฟฟ้าขยะ จ.หนองคาย กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่เมือง Bac Lieu ประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 141 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ในปีหน้าจะมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 1,779.32 เมกะวัตต์
ส่วนปี 64 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโตเป็น 9,100-10,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกรับรู้รายได้จากการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 1,536.32 เมกะวัตต์ และเตรียมจะ COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่เมือง SocTrang และ GaiLai ประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 80 เมกะวัตต์ ภายในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผลงานในปี 64 สามารถทำสถิติสูงสุดได้อย่างต่อเนื่อง
“ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ แนวโน้มธุรกิจยังอยู่ในทิศทางที่ดี มั่นใจว่าจะสามารถผ่านพ้นกับวิกฤติโควิด-19ในครั้งนี้ไปได้ โดยโครงการวินด์ฟาร์มในประเทศเวียดนาม เฟสแรก 80 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม ล่าสุดมีการติดตั้งกังหันลมกว่า 90% ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถ COD ได้ตามกำหนด ประกอบกับยังคงทยอยรับรู้รายได้จากโครงการเดิมเข้ามาต่อเนื่อง ทั้งโครงการโซลาร์ฟาร์มฯ โรงไฟฟ้าขยะ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มขึ้น และสนับสนุนการเติบโตของรายได้ในปีนี้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด”
นายจอมทรัพย์ กล่าว
ปัจจุบัน SUPER มีพอร์ตโครงการโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการแล้วมากกว่า 100 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตอยู่ที่ 1,536.32 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นกำลังการผลิตในประเทศ 699.6 เมกะวัตต์ และต่างประเทศ 836.7 เมกะวัตต์ โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 1,779.32 เมกะวัตต์ ในปี 65 และ 1,995.32 เมกะวัตต์ภายในปี 66 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด หรือมาอยู่ที่ 13,604 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ย. 64)
Tags: bitcoin, SUPER, จอมทรัพย์ โลจายะ, ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น, บิตคอยน์, บิทคอยน์, หุ้นไทย, โรงไฟฟ้า, โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน