นายวีระ นพวัฒนากร ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ. ซันสวีท (SUN) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 65 จะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10-15% ตามคำสั่งซื้อที่เข้ามาจากลูกค้ารายเดิมๆอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีคำสั่งซื้อเข้ามาล่วงหน้ากว่า 2,000 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 800-1,000 ล้านบาท ที่จะทยอยส่งมอบได้อย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปีนี้ไปถึงปี 65
โดยบริษัทมีฐานลูกค้าของบริษัทที่มีอยู่กว่า 200 ราย กระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 50 ประเทศ และลูกค้ารายใหม่ๆที่เข้ามาเพิ่มเติม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้นทั่วโลก ในขณะเดียวกันผลผลิตข้าวโพดในปีนี้ค่อนข้างดีจากสถานการณ์น้ำฝนที่มีอยู่ค่อนข้างมากและไม่เกิดสถานการณ์น้ำแล้งในช่วงปลายปี
นอกจากนี้บริษัทยังมีกำลังการผลิตเหลือเพียงพอต่อคำสั่งซื้อที่เข้ามาเพิ่มเติมด้วย โดยปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตข้าวโพดสินค้าแช่แข็ง (Frozen) และสินค้าบรรจุถุงสุญญากาศ (Pouch) อยู่ที่ราว 220,000 ตัน และใช้กำลังการผลิตไปราว 80% และในส่วนของกำลังการผลิตกลุ่มสินค้าพร้อมทาน (Ready to eat) ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 36 ล้านชิ้นต่อปี จากปัจจุบันใช้กำลังการผลิตที่ราว 25 ล้านชิ้นต่อปี โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายลง และมีการคลายมาตรการปิดเมือง (Lockdown)
ด้านปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และ ค่าขนส่งทรงตัวอยู่ในระดับสูงนั้น มีผลกระทบต่อลูกค้าเป็นหลักเนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบ FOB เป็นสัดส่วนหลัก แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกเริ่มคลี่คลาย สถานการณ์ค่าระวางเรือ และการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จะคลี่คลายได้
สำหรับแผนการลงทุนในปี 65 บริษัทอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์คำสั่งซื้อจากลูกค้า โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการลงทุนในการขยาย และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในบางส่วน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตมากยิ่งขึ้นรองรับคำสั่งซื้อใหม่ๆที่เข้ามา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 64)
Tags: SUN, ซันสวีท, วีระ นพวัฒนากร, หุ้นไทย