นายพิพัฒน์ วิริยธรานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บมจ.เอสพีซีจี เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดธุรกิจ Solar Roof ไตรมาส 2/66 จะมียอดขายเติบโตแตะ 250 ล้านบาท จากไตรมาส 1/66 อยู่ที่ประมาณ 225 ล้านบาท จากปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ค่อนข้างมาก รวมถึงยังมีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด (SPR) จะมุ่งเน้นการขายให้กับอาคารพาณิชย์ และอุตสาหกรรมเป็นหลัก เนื่องจากมีความต้องการติดตั้ง Solar Roof ค่อนข้างมาก หลังค่าไฟฟ้าอยู่ในระดับสูง และยังมองว่าในระยะยาวจะมีความคุ้มค่าอย่างมาก ทำให้ไตรมาส 1/66 มีการติดตั้งฯ เพิ่มขึ้น 500% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
บริษัท โซลาร์ รูฟ ไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยใหม่ ให้บริการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าบ้านพักอาศัยเป็นหลัก มองว่ากลุ่มลูกค้าดังกล่าวยังมีการขายไม่มาก ทำให้ปีนี้บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการขายให้กับลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น ผ่านกลุ่มลูกค้าบ้านพักอาศัยโดยตรง และกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่น ผู้รับก่อสร้างบ้าน ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายในส่วนนี้ราว 750 เมกะวัตต์ ภายใน 1-2 ปี โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้เริ่มทำการตลาดไปในกลุ่มบ้านพักอาศัยในโครงการแล้วประมาณ 5-6 หลัง และยังมีความสนใจเข้ามาพอสมควร
ธุรกิจโรงไฟฟ้าฯ บริษัทฯ ยังเดินหน้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น UKUJIMA ขนาด 480 เมกะวัตต์ (SPCG ถือ 17.92%) คาดจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือนก.ค.67 ซึ่งจะช่วยชดเชยโรงไฟฟ้าที่จะหมด Adder ในปีนี้จำนวน 14 แห่ง และในปี 67 อีก 13 แห่ง
ขณะที่ปีนี้สามารถรับรู้กำลังการผลิตใหม่ของโครงการ MIYAKO ขนาด 44 เมกะวัตต์ เข้ามาเพิ่ม โดยเริ่ม COD ไปแล้วในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ค. 66)
Tags: SPCG, พิพัฒน์ วิริยธรานนท์, หุ้นไทย, เอสพีซีจี