นายวิทูร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอส แอนด์ พี ซินดิเคท (SNP) เปิดเผยว่าบริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้จะมากกว่าปีก่อนที่ 5.2 พันล้านบาท โดยคาดธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้นหลังมีการกระจายวัคซีน และสถานการณ์โควิด-19 น่าจะบรรเทาลงในไตรมาส 3/64 ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าสามารถกลับมาใช้บริการภายในร้านได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการไตรมาส 2/64 คาดว่าจะเติบโต 10%จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่ประสบกับการขาดทุนในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกแรก เนื่องจากในปีนี้บริษัทได้ปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายและต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์มาเป็นบริการเดลิเวอรี่มากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยปัจจุบันมีแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ แอพลิเคชั่น รวมไปถึงโทร 1344 นอกจากนี้ยังร่วมกับพันธมิตรเดลิเวอรี่หลากหลาย เพื่อขยายพื้นที่จัดส่งให้ครอบคลุมมากขึ้นอีกด้วย รวมไปถึงยังมีการเปิด S&P DelTA (Delivery & Take Away) ปัจจุบันมีทั้งหมด 9 สาขา กระจายตามพื้นที่ปั๊มน้ำมัน คอมมิวนิตี้มอล์ และไฮเปอร์มาร์เก็ต เน้นความรวดเร็วของการจัดส่งภายใน 35 นาที และในปีนี้ตั้งเป้าขยายให้ถึง 31 สาขาทั่วกรุงเทพ คาดว่าจะสร้างรายได้สาขาละ 1.2-1.8 ล้านบาทต่อสาขา/เดือน
นอกจากนี้ ยังเปิด NEW S&P Bakery Mart และตู้กดสินค้า Vending Machine เพื่อตอบสนองลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น โดย NEW S&P Bakery Mart วางแผนเพิ่มให้ถึง 10 แห่งในปีนี้ และเพิ่มเป็น 20 แห่งในปีหน้า เน้นในพื้นที่โรงพยาบาล สำนักงาน หรือ สถานีรถไฟฟ้า ด้านตู้กดสินค้า Vending Machine ก็จะขยายจำนวนใกล้เคียงกัน
สำหรับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ เน้นไปที่การขายสินค้าผ่านธุรกิจรีเทลมากยิ่งขึ้น และมีการปรับสินค้าต่างๆตอบโจทย์ผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการปรับสินค้าให้ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือการนำสินค้าที่จำหน่ายเฉพาะช่วงเทศกาล มาปรับและจำหน่ายให้สามารถทานได้ทุกวัน เพื่อเพิ่มยอดขายได้อีกช่องทางหนึ่ง
นายวิทูร กล่าวถึงงบลงทุนในปีนี้ว่า บริษัทตั้งไว้ที่ 500 ล้านบาท นำไปใช้ลงทุนสร้าง Distribution Center 300 ล้านบาท และจะมีการสร้างคลังสินค้าใหม่อีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในไตรมาส 3/64
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 64)
Tags: SNP, ผลประกอบการ, วิทูร ศิลาอ่อน, หุ้นไทย, เดลิเวอรี่, เอส แอนด์ พี ซินดิเคท