SMK ร่วง 5.79% หลังเพิ่มทุนขาย PP ในราคาไม่ต่ำกว่า 21.52 บาท/หุ้น

หุ้น SMK ราคาร่วงลง 5.79% มาอยู่ที่ 22.80 บาท ลดลง 1.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 1.91 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.08 น. โดยเปิดตลาดที่ 23.90 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 23.90 บาท และราคาลงต่ำสุด 22.70 บาท

บมจ.สินมั่นคงประกันภัย (SMK) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2564 มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 66,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 200,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวนไม่เกิน 266,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 66 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

โดยจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวนไม่เกิน 66 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยและไม่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ กำหนดราคาเสนอขายไว้อย่างชัดเจน เป็นราคาไม่ต่ำกว่า 21.52 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 1,420,320,000 บาท

ในขณะนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอสุดท้ายของนักลงทุนที่แสดงความสนใจเข้าร่วมแข่งขันเสนอราคา (Competitive Process) โดยเมื่อบริษัทฯสามารถคัดเลือกผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงที่ชนะการเสนอราคาได้แล้ว บริษัทฯจะจัดประชุมคณะกรรมการบริษัทอีกครั้งหนึ่งเพื่อพิจารณาอนุมัติการกำหนดรายชื่อผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงที่ได้รับการเสนอขายหุ้น และกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ชัดเจน โดยบริษัทฯคาดว่าจะสามารถดำเนินการดังกล่าวภายในวันที่ 31 มกราคม 2565 และบริษัทฯจะแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่อผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงที่ได้รับการเสนอขายหุ้นและราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ชัดเจนให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทราบผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

ในการนี้ ผู้ลงทุนในวงจำกัดจะยังไม่มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการภายหลังการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯในครั้งนี้ เนื่องจากผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงจะเข้าถือหุ้นของบริษัทฯ ในสัดส่วนไม่เกิน 24.8% ของสิทธิออกเสียงของหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้

การเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของฐานะการเงินของบริษัทฯ รองรับการชำระค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยที่เกี่ยวข้องในอนาคต และรักษาอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนตามที่กฎหมายกำหนด โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทฯมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) อยู่ที่ 178% พร้อมกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถืหุ้นครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 และวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 (Record Date) ในวันที่ 27 มกราคม 2565

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ธ.ค. 64)

Tags: , , , ,