Sizzler ยืนหนึ่งร้านสเต็กสลัดบาร์ดันยอดขาย Q1/66 โตสูงกว่าก่อนโควิด ลุยขยายอีก 4 สาขา

นายอนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ในเครือบมจ.เดอะไมเนอร์ ฟู้ดส์ กรุ๊ป ภายใต้บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของในช่วงไตรมาส 1/66 ของซิซซ์เล่อร์ (Sizzler) ถือว่าทำได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังจากโควิด-19 คลี่คลาย และเปิดประเทศอย่างเต็มที่ ทำให้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ทำให้ยอดขายของสาขาเดิมของ Sizzler กลับมาเติบโตขึ้น และถือว่ากลับไปสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว จากการที่ร้านกลับมาให้บริการลูกค้านั่งทานในร้านได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ Sizzler ที่นั่งทานที่ร้านในสัดส่วนกว่า 90% โดยที่ปัจจุบันเห็นยอดขายเฉลี่ยของสาขาเติบโตกลับขึ้นมาในระดับตัวเลข 2 หลัก และคาดว่ายังจะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2/66

โดยกลยุทธ์ของ Sizzler เพื่อเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ในฐานะร้านสเต๊กและสลัดบาร์อันดับหนึ่งของไทยมาตลอด 30 ปี ได้เดินกลยุทธ์ผ่าน 3 กลยุทธ์ ที่เน้นเรื่องความสดในหม่ (Fresh) ความพรีเมียม (Premium) และคุณภาพ (Quality) ด้วยการยกเครื่องเล่มเมนูใหม่ให้น่าดึงดูดและน่าทานมากขึ้น โดยเฉพาะการชูเมนูเสต๊กที่เป็นจุดเด่นของ Sizzler ที่ผู้บริโภคนึกถึง พร้อมเสิร์ฟ 5 เมนูเสต๊กพรีเมียมใหม่ ให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง เพื่อสร้างประสบการณ์ลิ้มลองเมนูที่ Sizzler คัดสรร และช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาทานในร้านอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน Sizzler มีสาขาที่เปิดให้บริการทั้งหมด 60 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยแบ่งเป็นสัดส่วนสาขาในกรุงเทพฯ 70% และสาขาในต่างจังหวัด 30% โดยในปี 66 บริษัทวางแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 4 สาขา โดยในเดือนก.พ.ทีผ่านมา ได้เปิดไปแล้วที่สาขาเซ็นทรัล รามอินทรา และในเดือนก.ค. 66 จะ เปปิดสาขาใหม่ที่ Park Silom และในไตรมาส 4/66 จะเปิดสาขาในต่างจังหวัดใหม่อีก 2 สาขา รวมถึงจะมีอีก 3 สาขา ที่อยู่ระหว่างการรีโนเวท ได้แก่ เดอะมอลล์ บางกะปิ เดอะมอลล์ บางแค และ Paradise Park ที่จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในครึ่งปีหลังของปีนี้

สำหรับในเรื่งของราคาอาหารของ Sizzler ยืนยันว่าไม่มีปรับราคาขายขึ้น แม้ว่าจะมีความท้าทายในเรื่องของเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้กระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบ ค่าเช่า และค่าไฟที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่บริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้บริษัทยังสามารถคงราคาอาหารได้ ซึ่งบริษัทได้พยายามหาแนวทางในการตรึงราคาอาหาร เพื่อเป็นประโยชน์กับลูกค้า รวมถึงการให้สิทธิพิเศษแก่สมาชิกของ Sizzler ในราคาพิเศษ เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้ทานเสต๊กในราคาที่คุ้มค่าและจับต้องได้ ส่งผลให้ Sizzler ยังสามารถครองใจลูกค้าเป็นอันดับ 1 ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด (Market share) ในกลุ่มร้านเสต๊กและสลัดบาร์ สูงถึง 60%

นอกจากนี้ลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารในร้าน Sizzler ถือว่ามีการใช้จ่ายต่อบิลสูงขึ้นมาเป็น 800 บาท/บิล จากปีก่อนที่กว่า 700 บาท/บิล และเมื่อมาดูยอดทานอาหารต่อหัวพบว่าสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน มาที่ 350 บาท/หัว จากปีก่อนที่ 320 บาท/หัว และ 5 อันดับสาขาที่ทำยอดขายได้มากที่สุด ได้แก่ สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ สาขาฟิวเจอร์ รังสิต สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และสาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 66)

Tags: , , , , , ,