นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 65 ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีนี้ โดยปริมาณขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อยู่ที่ราว 3.65 ล้านตัน จากปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณขายอยู่ที่ 3.29 ล้านตัน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการขายก๊าซ LPG ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้ที่มากขึ้น หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายในหลายประเทศ และเริ่มเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวด้วย
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆมีความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัตตาคาร ร้านค้า ผู้ประกอบการรถขนส่งขนาดใหญ่ และรถขนส่งสาธารณะ รวมไปถึงมีการขับเคลื่อนของภาคธุรกิจการท่องเที่ยว อีกทั้งราคาน้ำมันในประเทศที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการใช้แก๊สในภาคธุรกิจขนส่งเริ่มกลับมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้จะส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัท
ล่าสุด SGP ได้จัดตั้งบริษัท “โฮลดิ้ง คอมพานี” ใน สปป.ลาว บริษัทชื่อ SGP (LAO) CORPORATION SOLE CO., LTD. เพื่อถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) มีทุนจดทะเบียน จำนวนเงิน 20,000 ล้านกีบ หรือประมาณ 57,860,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20,000 กีบ ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียน
สำหรับผลประกอบการในงวดปี 64 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 3,808.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,746.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 84.71 % เทียบกับงวดปี 63 ที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 2,061.84 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 78,603.77 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขาย,ขนส่ง และบริการ รายได้อื่น 906.13 ล้านบาท เนื่องจากราคา LPG ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปี 64 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยครึ่งปีหลังราคาก๊าซปรับตัวขึ้นกว่า 245 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน ส่งผลให้กำไรในปีที่ผ่านมาเติบโตเป็นที่น่าพอใจ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.พ. 65)
Tags: SGP, ศุภชัย วีรบวรพงศ์, สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์, หุ้นไทย