SGP ออกหุ้นกู้ชุดใหม่อายุ 2-4 ปี ดอกเบี้ยราว 4.75-5.15% ขายผู้ลงทุนทั่วไปกลาง ธ.ค.

บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 2 ปี 9 เดือน และอายุ 4 ปี 2 เดือน คาดว่าเสนอขายระหว่างวันที่ 14 – 15 และ 18 ธันวาคม 2566 เพื่อนำเงินไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด มั่นใจได้รับผลการตอบรับดีจากนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นกู้ที่อยู่ในกลุ่ม “ระดับลงทุน” หุ้นกู้ SGP ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “BBB+”

นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ SGP เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนเพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 2 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยราว 4.75-4.95% ต่อปี และรุ่นอายุ 4 ปี 2 เดือน อัตราดอกเบี้ยราว 4.95-5.15% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน คาดว่าเสนอขายระหว่างวันที่ 14-15 และ 18 ธันวาคม 2566 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 5 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย , ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารยูโอบี, บล.เอเซีย พลัส และ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) โดยการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้จะนำเงินไปชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัทฯ ที่จะครบกำหนดในเดือนธันวาคม 2566 และมกราคม 2567

หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade ที่ “BBB+” เช่นเดียวกับอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต “ลบ” จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 โดยทริสเรทติ้ง ระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนถึงเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวางของบริษัท และตำแหน่งทางการตลาดของบริษัทในฐานะเป็นผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ LPG (Liquefied Petroleum Gas) รายใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศไทย

SGP เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรายใหญ่ในธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซปิโตเลียมเหลว หรือก๊าซ LPG ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ครอบคลุมทั้งภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง มีระบบการขนส่งทั้งทางรถและทางเรือ ทำให้มีการจัดส่งที่รวดเร็ว และมีเครือข่ายกระจายสินค้าที่ครอบคลุมทั้งประเทศ ในส่วนของธุรกิจก๊าซแอลพีจีในต่างประเทศ บริษัทฯ มีการจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ในแบบค้าส่งผ่านเรือขนส่งก๊าซ LPG ขนาดใหญ่ (เรือ VLGC) และค้าปลีกผ่านคลังก๊าซแอลพีจีในประเทศต่างๆ ประกอบด้วยคลังก๊าซแอลพีจีในประเทศจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และลาว

นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจอื่นๆ ที่นอกเหนือจากธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจี บริษัทฯยังได้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าจำนวน 2 แห่ง ในประเทศเมียนมา มีกำลังการผลิต 230 เมกะวัตต์ และ 10 เมกะวัตต์ ตามลำดับ และธุรกิจให้บริการคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือน้ำลึก อ. เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง

ในส่วนของผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 66 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย ขนส่ง และให้บริการเป็นจำนวนเงิน 68,037.73 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากงวดเดียวกันของปี 65 เนื่องจากราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกเฉลี่ย 9 เดือนแรกอยู่ที่ 563.89 เหรียญสหรัฐ/ตัน ต่ำกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 776.94 เหรียญสหรัฐ/ตัน

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมีผลกำไรขั้นต้นสำหรับงวด 9 เดือนจำนวนเงิน 1,936.30 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 65 ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนสินค้าที่มีไว้เพื่อขายนั้น มีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกที่ประกาศอ้างอิงราคาขาย ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนปี 66 อยู่ที่ 259.67 ล้านบาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 66)

Tags: , ,