นายสมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/66 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 477.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 428.2 ล้านบาท โดยมีกำไรขั้นต้น 102.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 66.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรขั้นต้น 61.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 40.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 203.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.4 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 8.5%
“ผลการดำเนินงานของบริษัททยอยฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/65 ขณะเดียวกันผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/66 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมทำสถิติสูงสุดใหม่อีกด้วย เป็นผลมาจากต้นทุนราคาวัตถุดิบปรับตัวลดลง จากราคาน้ำมันและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการบริหารจัดการวัตถุดิบล่วงหน้า พร้อมการทยอยปรับราคาขายให้เหมาะสมกับต้นทุน ประกอบกับแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจมุ่งเน้นขายสินค้าที่ให้มาร์จิ้นสูง ซึ่งบริษัทมีความพร้อมทั้งทางด้านเครื่องจักร ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาโดยตลอด”
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 66 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้โตแบบ Organic growth จากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 1,800-1,850 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 คาดว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/66 จากกลยุทธ์การขยายตลาดเชิงรุกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูง
ประกอบกับการมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ (Medical) ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าช่วยผลักดันการเติบโตได้เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อมุ่งสร้างความยั่งยืนของอัตรากำไรขั้นต้นให้มั่นคงในระยะยาว พร้อมกันนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าแผนการเข้าไปลงในบริษัท Star Print Vietnam Joint Stock Company หรือ SPV ประเทศเวียดนาม จะเป็นการยกระดับ SFLEX และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียน
อนึ่ง ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 ได้มีมติอนุมัติเพื่อเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/66 วันที่ 19 มิ.ย.66 ในการลงทุนซื้อหุ้นสามัญในบริษัท Star Print Vietnam Joint Stock Company หรือ SPV (ประกอบธุรกิจการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์) จำนวนไม่เกิน 1,536,720 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนและชำระแล้วของ SPV ในราคาซื้อขายไม่เกิน 262,500.00 ล้านเวียดนามดอง หรือประมาณ 385.09 ล้านบาท
ทั้งนี้ SFLEX จะเข้าร่วมกับ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) หรือบริษัทย่อยของ SCGP เพื่อทำธุรกรรมดังกล่าว
“การเข้าลงทุนในครั้งนี้เป็นไปตามแผนการขยายฐานธุรกิจไปยังต่างประเทศ และขยายฐานรายได้จากการส่งเสริมซึ่งกันและกัน เนื่องจาก SPV ประกอบธุรกิจการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษคุณภาพสูงในประเทศเวียดนาม จึงเป็นการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ของบริษัทฯ เนื่องจาก SPV มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งครอบคลุมทั้งในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา และยุโรป เช่น Unilever, Colgate, Crayola, Mondelez, Nestle, Heineken, P&G และ Walmart เป็นต้น ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ มีฐานลูกค้าในหลายภูมิภาคทั่วโลก อีกทั้งการได้ร่วมลงทุนกับ SCGP ซึ่งเป็นผู้นำตลาดบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรชั้นนำ ในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีช่วยต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในอนาคต ส่งเสริมความสามารถในการผลิตทางบรรจุภัณฑ์ระหว่างกัน รวมถึงเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจมากขึ้นอีกด้วย” นายสมโภชน์
ทั้งนี้ที่ผ่านมา SFLEX ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทใหญ่ที่มีคุณภาพระดับโลก ทั้งจาก กลุ่ม TU ซึ่งทำให้บริษัทฯ ได้เข้าร่วมลงทุนกับบริษัท ไทยยูเนี่ยน กราฟฟิกส์ จำกัด (TUG) เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) และดำเนินธุรกิจอื่นใดที่เกี่ยวข้องรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ใหม่ในอนาคต ตลอดจนการได้วางแผนเข้าร่วมลงทุนใน SPV ประเทศเวียดนามร่วมกับกลุ่ม SCGP ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทฯ จะได้รับประสบการณ์อันยอดเยี่ยมในการทำงานกับบริษัทระดับโลก เพื่อพัฒนาศักยภาพ ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน และต่อยอดทางธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ค. 66)
Tags: SFLEX, ผลการดำเนินงาน, สตาร์เฟล็กซ์, สมโภชน์ วัลยะเสวี, หุ้นไทย