กลุ่มตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB FM) มองเงินบาทยังผันผวนสูง และมีแนวโน้มอ่อนค่า ทั้งจากปัจจัยนโยบายการเงินโลกที่ส่วนทางกันมากขึ้น และความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทย คาดระยะ 1-3 เดือนหน้า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.35-35.35 บาท/ดอลลาร์
นายแพททริก ปูเลีย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังนักลงทุนปรับมุมมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจขึ้นดอกเบี้ยต่อได้, เศรษฐกิจจีนที่ชะลอลงกว่าที่ตลาดคาด ทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลง ซึ่งเงินหยวนถือว่ามีความสัมพันธ์สูงกับเงินบาท รวมทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ที่ส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากตลาดการเงินไทย ทั้งตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรรัฐบาล ทำให้เงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงราว 1.30% ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้
อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค พบว่าการอ่อนค่าของเงินบาทยังน้อยกว่าสกุลเงินอื่น ทำให้ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) แข็งค่าขึ้นราว 1.20% ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนสูง ทำให้มีลูกค้าเข้ามาทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (FX hedging) กับทางธนาคารเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา
โดยธนาคารประเมินว่า ปริมาณการทำธุรกรรม FX forward ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ราว 10% ซึ่งธุรกรรมส่วนหนึ่ง มาจากกลุ่มธุรกิจทองคำที่มีการซื้อขายมากขึ้นในช่วงที่ราคาทองคำผันผวนสูง และการส่งเงินกลับต่างประเทศ (Dividend payout) ของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มักจะมีมากในไตรมาสที่ 2 ของปี
นายแพททริก กล่าวว่า สำหรับในระยะต่อไป นโยบายการเงินโลกจะมีความแตกต่างกันมากขึ้น โดยถึงแม้ Fed อาจไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. แต่ก็มีโอกาสจะขึ้นดอกเบี้ยต่อในการประชุมเดือนก.ค. เนื่องจากเงินเฟ้อพื้นฐาน ยังมีแนวโน้มลดลงช้า ส่วนในยุโรป คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) น่าจะขึ้นดอกเบี้ยต่อได้อีก 2 ครั้งในปีนี้
ขณะที่ธนาคารกลางจีน ล่าสุดได้ปรับลดดอกเบี้ย 7-days reverse repo จาก 2.0% มาอยู่ที่ 1.90% ทำให้นโยบายการเงินของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา สวนทางกันมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เงินทุนเคลื่อนย้ายสู่ตลาดเกิดใหม่ (EMs) อาจจะลดลง และกดดันให้เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่อได้
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของการเมืองไทยก็ยังมีอยู่ ทั้งเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลและการดำเนินนโยบายภาครัฐในระยะต่อไป ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และทิศทางค่าเงินบาท ซึ่ง SCB FM ประเมินว่า ในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้านี้ เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.35-35.35 บาท/ดอลลาร์
ดังนั้น แนะนำให้ป้องกันความเสี่ยงเงินบาทอ่อนค่า โดยฝั่งนำเข้าอาจพิจารณาซื้อ Call Spread ระยะเวลา 3 เดือน โดยมีราคาใช้สิทธิที่ 34.60 บาท/ดอลลาร์ และป้องกันความเสี่ยงถึงระดับราคาที่ 35.30 บาท/ดอลลาร์ ส่วนฝั่งส่งออกที่สามารถรอได้ ทั้งนี้ SCB FM แนะนำให้รอจังหวะขายเงินดอลลาร์สหรัฐ Spot ภายในระยะราว 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งน่าจะได้ช่วงราคา 35.20-35.40 บาท/ดอลลาร์ เพื่อเข้าทำธุรกรรม FX Forward ต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มิ.ย. 66)
Tags: SCB, การเมือง, ธนาคารไทยพาณิชย์, นโยบายการเงิน, ผู้ช่วยผู้จัดการ, เงินบาท, แพททริก ปูเลีย