นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) กล่าวว่า บริษัทคาดรายได้ปี 65 เติบโตกว่า 100% พร้อมเตรียมงบลงทุนมากกว่า 5 พันล้านบาท ขยาย 5 ธุรกิจหลักได้แก่ Payments, Merchandising, Solutions, Financial Services และ New Economy ที่ครอบคลุมในธุรกิจเกี่ยวกับนวัตกรรมและสินทรัพย์ดิจิตัล
และ SABUY ยังตั้งเป้าทำดีล M&A ไม่ต่ำกว่า 10 ดีลในปี 65 เพื่อพัฒนาจาก SABUY Ecosystem ไปสู่ SABUYVERSE ครอบคลุมภาคธุรกิจและการใช้ชีวิตของประชาชน ด้วยกลยุทธ์ 7 สะดวก 7 สมาร์ท 7 Rising Stars
สำหรับ 7 สะดวก เพื่อชีวิตที่สบายของผู้บริโภค ได้แก่
1) สะดวกซื้อ ผ่าน Retail Platform ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ตู้จำหน่ายน้ำมันอัตโนมัติ และร้านสะดวกซื้อในเครือ SABUY
2) สะดวกส่ง ผ่านแฟรนไชส์รับส่งพัสดุ (Drop-off stores) ในเครือ SABUY มากกว่า 6 แบรนด์ รวมกว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ และกว่า 20,000 สาขาในเครือข่ายพันธมิตร
3) สะดวกซัก ผ่านร้านแฟรนไชส์ร้านซักอบที่ร้าน LaundryBar ผู้นำในธุรกิจสะดวกซักที่มีมาตรฐานระดับโลก ด้วยจำนวนสาขากว่า 600 แห่งทั่วโลก และร้านซักอบ Sabuy Wash ที่มีเป้าหมายเติบโตเป็นที่หนึ่งภายใน 2 ปี ด้วยสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศมากกว่า 1,000 สาขา ให้บริการด้วยคุณภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
4) สะดวกใช้ ระบบปฏิบัติการที่ให้ลูกค้า SME หรือ Enterprise สามารถใช้งานผ่าน Platform ได้หลากหลาย ทั้งระบบ POS ระบบ Food Court โปรแกรมบัญชี โปรแกรมการบริหารช่องทางและจัดการการขาย โปรแกรมทางด้าน Human Resource Management เป็นต้น
5) สะดวกจ่าย ช่องทางหรือระบบปฏิบัติการที่รองรับการจ่ายเงินทุกรูปแบบทุกประเภท รวมถึงเงินสกุลดิจิตัลในอนาคต
6) สะดวกโอน ให้บริการฝาก ถอน โอน ครอบคลุมทุกสถาบันการเงิน เข้าถึงพื้นที่ระดับชุมชน และรองรับธุรกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
และ 7) สะดวกชำระ รองรับการชำระบิลสาธารณูปโภค สินค้าและบริการต่างๆ รวมถึงเป็นช่องทางการเติมเงินและรับชำระผ่านทาง E-Wallets ที่หลากหลายภายในธุรกิจเครือ SABUY
ส่วน 7 SMART พัฒนาเทคโนโลยี ครอบคลุมทุกกลุ่มพื้นที่เป้าหมาย ประกอบด้วย
1) SMART Factory เทคโนโลยีที่รองรับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมทั้งผู้ประกอบการ และพนักงาน เชื่อมโยงระบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบสวัสดิการ การใช้จ่าย ชำระเงิน รวมถึงระบบการบริหารงานต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ให้ความสะดวก รองรับทุกช่องทาง
2) SMART Office พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับสำนักงานและพนักงาน ด้วยเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ตู้กดน้ำอัตโนมัติ ระบบศูนย์อาหาร รวมไปถึงรองรับบริการสวัสดิการแก่พนักงาน และเชื่อมโยงการปฏิบัติการระหว่างผู้ประกอบการ และพนักงาน
3) SMART School กลุ่มโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ที่ต้องการเชื่อมระบบศูนย์อาหาร และระบบการชำระเงินแบบ Cashless Society ที่สามารถเชื่อมกับระบบทะเบียนรายชื่อนักเรียนนักศึกษา เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการชำระเงินค่าธรรมเนียมการศึกษาได้หลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงการจำหน่ายอุปกรณ์การศึกษาผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และอำนวยความสะดวกในส่วนของระบบการเรียนการสอนออนไลน์
4) SMART Canteen การขยายและพัฒนาระบบศูนย์อาหารจาก Hyper-Market ชั้นนำ ไปสู่ระบบปฏิบัติการที่รองรับโรงอาหารหรือศูนย์อาหารขนาดเล็กในโรงงาน โรงเรียน และเชื่อมต่อไปยังระบบปฏิบัติการอื่นๆ เช่น ระบบการชำระเงิน การรับส่งพัสดุ เป็นต้น
5) SMART Parking การเชื่อมต่อระบบการชำระเงินใน SABUYVERSE เข้าสู่เทคโนโลยี Parking ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย ชำระค่าจอดรถง่าย ๆ ผ่านมือถือ หรือ ช่องทางอื่น ๆ ที่หลากหลาย สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า
6) SMART Home การนำระบบปฏิบัติการ หรือ Platform ต่าง ๆ ภายใต้กลุ่ม SABUY และพันธมิตร เชื่อมโยงผ่านอุปกรณ์ IoT เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นระบบการชำระเงิน การทำธุรกรรมทางการเงิน การรับส่งพัสดุ การจองคิวนัดหมาย เป็นต้น
และ 7) SMART Locker การเชื่อมต่อระบบจาก Offline ไปสู่ระบบ Online สามารถเข้าถึงการชำระเงินได้หลากหลาย ผสมผสานกับการเป็นจุดรับ/ส่งสินค้าแบบ Self-Service และระบบ Drop-off รับ/ส่งพัสดุภายใต้ SABUYverse
พร้อมกันนี้ SABUY ยังขยายการลงทุนไปใน 7 กลุ่มธุรกิจดาวรุ่งปี 65 หรือ 7 Rising Stars ได้แก่
1) SABUY Digital การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิตัล (Digital Asset) รวมถึง Blockchain Technology เพื่อรองรับการใช้งานใน SABUYverse และการเติบโตของ Ecosystem ต่อไป
2) SABUY Accelerator การลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรม เพื่อขยายการลงทุนของกลุ่มบริษัท เพิ่มศักยภาพสินค้าและบริการใน SABUYverse และเป็นการช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทผ่าน SABUY Accelerator อีกด้วย
3) SABUY As A Solutions หรือ SAAS การลงทุนในธุรกิจระบบการจัดการ ทั้งระบบการรับชำระ และระบบปฏิบัติการอื่น ๆ เช่น ระบบ POS ระบบการบริหารจัดการการขาย โปรแกรมบัญชี โปรแกรม Human Resource Management เป็นต้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบในรูปแบบ One Stop Service
4) SABUY Speed การจัดตั้ง Holding Company เพื่อรวบรวมธุรกิจ Drop-off และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องภายใต้กลุ่ม SABUY และพันธมิตร รองรับการ Spin-off เพื่อเติบโตอย่างก้าวกระโดด
5) SABUY Channel การใช้ช่องทางในเครือข่ายของกลุ่ม SABUY รองรับการเติบโตของเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ และสร้างต่อยอดธุรกิจอื่น ๆ เช่น การเปิดจุด EV Charger ในพื้นที่ร้านค้าของกลุ่ม SABUY
6) SABUY Media เชื่อมต่อและลงทุนในธุรกิจ Media เพื่อสามารถใช้ประโยชน์ของเครือข่ายใน SABUYverse และพันธมิตรต่าง ๆ ทั้งในส่วน Online และ Offline
และ 7) SABUY Infrastructure การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น Cloud System โปรแกรมระบบปฏิบัติการต่าง ๆ รองรับการเติบโตของการใช้งานอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีได้ในอนาคต และยังรวมถึงธุรกิจพื้นฐานอื่นๆ ที่ช่วยต่อยอด หรือ สร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจของ SABUY และพันธมิตร เช่น ระบบธุรกิจขายตรง ระบบการบริหารจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) ระบบการติดตามหนี้ เป็นต้น
“นอกจากนี้ SABUY ยังได้วางแผนในการลงทุนเรื่องบุคลากรด้วยการเปิด SABUY Campus เพื่อเป็นศูนย์พัฒนาบุคลากรของ SABUY และพันธมิตร และยังสามารถใช้ในการเป็นสถาบันเพื่อช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น SABUY ยังมีแผนที่จะพัฒนาทีมงานรุ่นใหม่ ๆ ด้วยการแสวงหา และเปิดโอกาสให้กับนักศึกษาจบใหม่จากสถาบันการศึกษาชั้นนำทั้งในและต่างประเทศร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ SABUYverse ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแผนยุทธศาสตร์ของปี 65 และตั้งเป้าการเติบโตของทั้งองค์กรอย่างก้าวกระโดดภายในปีนี้”
นายชูเกียรติ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ม.ค. 65)
Tags: SABUY, ชูเกียรติ รุจนพรพจี, สบาย เทคโนโลยี, หุ้นไทย