SABUY เล็งปิดดีล TKC-AIT สิ้น พ.ย.ขยาย Ecosystem แจงงบ 9 เดือนกำไรสุทธิวูบแต่กำไรปกติโตพุ่ง

นายวิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์และการลงทุน บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 66 บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจและเพิ่มพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมและเสริมความแข็งแกร่งแก่ Ecosystem รวมไปถึงต่อยอดและเสริมสร้างศักยภาพ (Synergy) ของกลุ่มบริษัทฯ โดยได้มีการจัดกลุ่มธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่มธุรกิจหลักได้แก่ 1. Connext 2. Enterprise & Life 3. Payments & Wallet 4. Financial Inclusion 5. InnoTainment และ 6. Venture ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญดังนี้

1. กลุ่มธุรกิจ Enterprise & Life: บริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท S2SMART ซึ่งให้บริการรับเหมาแรงงานในพื้นที่ภาคกลาง เพื่อขยายขนาดธุรกิจให้กับกลุ่ม SABUY Outsourcing และมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต

2. กลุ่มธุรกิจ Payments & Wallet: บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เป็น Banking Agent ผ่าน SABUY COUNTER ซึ่งจะเป็นจุดบริการฝาก-ถอนเงินสดผ่านร้านค้าให้บริการรับ-ส่งพัสดุด่วนทั่วไทย โดยใช้เครือข่าย SABUY SPEED ที่มีจุดเข้าร่วมการให้บริการฝาก-ถอนเงินสดกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ และบริการฝากเงินผ่านตู้เติมเงิน “เติมสบายพลัส” ให้ธุรกรรมการฝาก-ถอนเงินสดสะดวกและง่ายขึ้น

3. กลุ่มธุรกิจ InnoTainment: จากการที่บริษัทฯ เข้าลงทุนใน AS ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้รับทราบและยินยอมให้ AS เข้าลงทุนใน Bitkub Online (BO) เพื่อต่อยอดธุรกิจ Digital Platform, Exchange ตลอดจนถึงเทคโนโลยี่ Blockchain ที่ BO มีศักยภาพอย่างสูง เพื่อนำมาต่อยอดกลุ่มธุรกิจต่างๆ ของ SABUY อีกทั้งเข้าลงทุนในบริษัท NIPA Cloud เพื่อเพิ่มศักยภาพในด้าน Cloud และ Digital Marketing Agency ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนำมาปรับใช้กับธุรกิจ Digital Asset รวมไปถึง Digital Platform โดยเฉพาะกับ SABUY Digital และ SABUY Infrastructure

บริษัทฯ ได้ยกระดับ Ecosystem โดยการเข้าลงทุนกับพันธมิตรต่างๆ ในปี 65 ไม่ว่าจะเป็น SBNEXT, Asphere, SPEED (กลุ่มธุรกิจ Drop-Off), LOVLS, BZB และอื่นๆ ที่มีความหลากหลายและแตกต่างในตัวธุรกิจ รวมไปถึงการก่อตั้งบริษัทย่อยในเครือ เมื่อนำเข้ามาอยู่ใน Ecosystem ของบริษัทฯ ส่งผลให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ/ลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนต่อหน่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ การดำเนินการแลกหุ้นระหว่าง TKC – AIT ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่ม SABUY ในการขยายการให้บริการที่ครอบคลุมไปยังลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ได้ดียิ่งขึ้น

นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานบัญชีและการเงิน SABUY เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปีนี้ ซึ่งเติบโตสูง โดยมีรายได้รวม 7,564 ล้านบาท เติบโต 165% จากรายได้รวม 2,850 ล้านบาท และ กำไรปกติเติบโต 91% จากกำไรปกติช่วง 9 เดือนแรกปีก่อน แต่มีกำไรสุทธิ 383 ล้านบาท ลดลงจาก 964 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปีก่อนมีกำไรจากการวัดมูลค่าการลงทุนสูง

สำหรับงบไตรมาส 3/65 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,468 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111 % จากรายได้รวม 1,172 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ มีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 667 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 297 ล้านบาท หรือ 80% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 27% ลดลงจาก 32% แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/66 ที่ 24% สาเหตุหลักเป็นผลมาจากการที่กลุ่มบริษัทมีผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลายมากขึ้น มีการขายแบบ wholesaleเพิ่มขึ้น ซึ่งมีตลาดการแข่งขันด้านราคาที่แตกต่างกัน โดยมีกำไรจากการดำเนินการหลังค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มในการสร้างธุรกิจ 203 ล้านบาท

และมีกำไรสุทธิประจำงวดเท่ากับ 37 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 463 ล้านบาท คิดเป็น 93% โดยหลักลดลงจากกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตามเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลประกอบการในอนาคต บริษัทฯ ได้มีมาตรการในการปรับตัว เช่น การเพิ่มมาตรการณ์ในการคัดเลือกลูกค้าเครื่องกรองน้ำในระบบผ่อนชำระเพื่อเพิ่มความรัดกุมมากยิ่งขึ้น มีการตั้งสำรองค่าเผื่อนี้เสียเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางในอนาคต พิจารณาการขายธุรกิจบางส่วนที่ไม่ส่งเสริม Ecosystem และลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงานโดยกำลังดำเนินงานตามแผนการจัดโครงสร้างบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมมูลค่าและเพิ่มความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และบริษัทฯจะดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้อย่างรัดกุมและรอบคอบเพื่อเพิ่มผลประกอบการในสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าและพาร์ทเนอร์รวมไปถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วนต่อไป ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นในแผนการดำเนินงานรวมไปถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆที่ยังคงเดินหน้าอย่างรัดกุม ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากความสามารถในการสร้างรายได้ที่ยังดีอย่างต่อเนื่อง แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นปัจจุบัน

ในไตรมาส 3/66 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากบริษัทหลักกลุ่มเดิม เช่น, SBNEXT, SABUY Market Plus, SABUY SPEED, SABUY Alliances, PTECH, BZB, และ LOVLS ซึ่งเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตคงที่อย่างต่อเนื่องในไตรมาสนี้ รวมไปถึงการมองหาโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ๆ ที่เสริมสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทฯ เช่น การเพิ่ม Touchpoint และช่องทางการขายแบบ B2C ผ่านแพลตฟอร์ม ShopDD และ เป็นตัวแทน Banking Agent ให้กับธนาคารกรุงเทพ ในการฝาก-ถอน เงินสด ผ่านช่องทางของบริษัทฯ เป็นต้น อีกทั้ง บริษัทยังดำเนินกลยุทธ์เน้นความยั่งยืนด้านการพัฒนาบุคลากร ควบคุมความเสี่ยง และการตรวจสอบภายใน รวมไปถึงปรับปรุงระบบการขายและบริการตามแนวทาง 7 SMART เพื่อเพิ่มรายได้ใน ทุกสินค้าและบริการ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีการหาช่องทางการขายและการหาตลาดใหม่ๆ รวมถึงการปรับโครงสร้างหน่วยงานแบบองค์รวมเน้นการขายแบบ Solution เพื่อให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจ 7 SMART โดยบริษัทฯ ยังคงแนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืนตามตั้งเป้าไว้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 66)

Tags: , , ,