PROUD วางเป้าปี 68 ปั๊มรายได้ทะยานแตะหมื่นลบ.ตุน Backlog แน่น เปิด 3 โครงการ-บุกทำเลใหม่ภูเก็ต

นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บมจ.พราว เรียล เอสเตท (PROUD) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 68 แตะ 10,000 ล้านบาท เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 6 เท่าจากปี 66 โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) แล้ว 10,899 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 67-69 รวมทั้งยังเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพอย่างต่อเนื่อง และปักหมุดทำเลใหม่ใน จ.ภูเก็ตในปีหน้า พร้อมตั้งงบลงทุน 3,000 ล้านบาทสำหรับจัดหาที่ดินพัฒนาโครงการเพิ่มเติมในปีหน้า

PROUD พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่บนทำเลที่มีศักยภาพ โดยไม่เน้นจำนวนการเปิดโครงการใหม่ แต่เน้นการออกแบบและบริการที่ดีที่สุด ส่งผลให้ฐานะการเงิน และผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง ประสบความสำเร็จในการเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตของบริษัท และความมั่นใจจากลูกค้ากลุ่มเรียลดีมานด์

บริษัทให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) เพื่อสร้างความมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว สอดคล้องกับบโยบายด้านการพัฒนาความยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยมีเป้าหมายการลดการชดเชยคาร์บอนจนเป็นกลาง (Carbon Neutrality) ภายในปี 2583 เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 93 พร้อมวางแผนการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนผ่านโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน (ALL IS WELL) สำหรับทุกชีวิตอย่างแท้จริง และพัฒนาบริษัทให้มีศักยภาพเข้าเกณฑ์ของกองทุน THAI ESG ในอนาคต

นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร PROUD กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 68 จะสานต่อการออกแบบที่อยู่อาศัยและบริการภายใต้แนวคิด ภายใต้แนวคิด “ALL IS WELL” เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด 3 โครงการ มูลค่ารวม 9,200 ล้านบาท บน 3 ทำเลศักยภาพชานเมืองกรุงเทพฯ หัวหิน และภูเก็ต ถือเป็นการขยายสู่ทำเลใหม่ของ PROUD ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการคุณภาพระดับลักชัวรี และขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ทั้ง 3 โครงการดังกล่าวประกอบด้วย โครงการบ้านแนวราบในกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 4,050 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดพรีเซลล์ในไตรมาส 3/68 และเริ่มโอนในไตรมาส 4/68 เพื่อรับรู้รายได้เข้ามาทันที , โครงการคอนโดมิเนียมในหัวหิน มูลค่าราว 3,000 ล้านบาท เปิดพรีเซลล์ครึ่งปีหลังและเริ่มโอนภายในปี 72 และ โครงการบนทำเลใหม่ที่ภูเก็ต มูลค่าราว 2,000 ล้านบาท เริ่มพรีเซลล์ครึ่งปีหลังและเริ่มโอนภายในปี 71

PROUD มุ่งมั่นสร้างเอกลักษณ์และความแตกต่างในด้าน well-being and sustainability ด้วยแนวคิดเพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน “ALL IS WELL” เสริมความชัดเจนของรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากกว่า (More Than Just Living) ที่ PROUD มุ่งมั่นสร้างสรรค์มาตลอด โดยในปี 68 เดินหน้ากลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยในฐานะ Well-being Developer ผ่าน 5 องค์ประกอบเพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน ได้แก่

WELL-CRAFTED DESIGN: การออกแบบเพื่อสุขภาวะและความปลอดภัยของทุกชีวิต

WELL-LIVING AMENITIES: สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการอยู่อาศัยและพักผ่อนกายใจ

WELL-CURATED SERVICES: บริการพิเศษและสิทธิประโยชน์ที่พร้อมดูแลบ้านคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย

WELL COMMUNITY: สังคมที่อบอุ่นและน่าอยู่ผ่านการบริหารโครงการและกิจกรรมมากมาย เพื่อสานต่อการดูแลในระยะยาว

WELL SUSTAINABILITY: การอยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการออกแบบเพื่อทุกไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน

PROUD จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับหน่วยงานชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เช่น เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ และ Spacely AI เพื่อพัฒนาโครงการที่ได้มาตรฐานระดับโลก พร้อมเดินหน้ายกระดับมาตรฐานอาคารไทยสู่ระดับโลกด้วย Fitwel มาตรฐานอาคารเพื่อสุขภาวะที่ดีและ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) มาตรฐานอาคารเขียวเพื่อความเป็นผู้นำด้านพลังงานและ สิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มีการนำมาตรฐาน FITWEL มาพัฒนาคอนโดมิเนียมและเดินหน้ารับรองในทุกโครงการเพื่อการสร้างรากฐานที่ดีและการดูแลในระยะยาวสำหรับผู้อยู่อาศัย โดยโครงการ InterContinental Residences Hua Hin ที่ได้รับรองมาตรฐาน Fitwel Built Certification ในประเภท Multifamily Residential เป็นแห่งแรกในไทย และโครงการ Vehha Hua Hin ได้รับการรับรอง Fitwel Design Certification เป็นที่เรียบร้อย

นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PROUD เปิดเผยว่า จากการดำเนินงานตลอดมาภายใต้ DNA ของ PROUD ที่ถ่ายทอดสู่การสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ที่ตอบโจทย์ด้านความเป็นอยู่ที่ดี ไม่เพียงทำเลที่ตั้งระดับ Rare Location และการออกแบบอันงดงาม แต่เป็นองค์ประกอบอันครบครันเพื่อการอยู่อาศัย อาทิ การบริการเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การดูแลในระยะยาว และความยั่งยืนที่ทำให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและบริบทโดยรอบได้อย่างดี

สอดคล้องกับภาพรวมตลาดโลกที่สะท้อนแนวโน้มด้านการให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยข้อมูลจาก Global Wellness Institute ระบุว่า ธุรกิจด้านสุขภาพทั่วโลกเติบโตถึง 7.3% ต่อปี และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 8.99 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 313 ล้านล้านบาท โดยกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใส่ใจสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุดในปี 2023-2028

“ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพในไทยเองก็เติบโต 10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ซึ่งจะสร้างโอกาสอีกมากมายสำหรับผู้ประกอบการในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ PROUD จึงมุ่งสร้างโครงการที่อยู่อาศัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อรองรับเทรนด์การเติบโตนี้”นายภูมิพัฒน์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 67)

Tags: , , ,