MINT กางแผน 3 ปีเปิดโรงแรมใหม่กว่า 300 แห่ง เจาะอเมริกาเหนือ-เอเชียเหนือ ผุด 2 แบรนด์ใหม่

นายดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล [MINT] และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ เปิดเผยว่า ไมเนอร์ โฮเทลส์ เดินหน้าสู่ปี 2568 การเติบโตที่แข็งแกร่ง ด้วยแผนเปิดโรงแรมใหม่กว่า 300 แห่งทั่วโลก ภายใน 3 ปี ซึ่งจะผลักดันให้จำนวนโรงแรมในเครือทะลุ 850 แห่ง ในปี 2570 ตามเป้าหมายในการก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทเครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังคงบุกตลาดสำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือและเอเชียเหนือ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับตลาดที่มีศักยภาพสูง อาทิ โมร็อกโก อียิปต์ และตุรกี รวมถึงเร่งขยายธุรกิจในตลาดอินเดีย หลังได้เปิดตัว โรงแรม อนันตรา จิวเวล บาห์ จัยปูร์ (Anantara Jewel Bagh Jaipur Hotel) ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังคงผลักดันการขยายธุรกิจในตลาดระดับลักชูรี่และอัพสเกลอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในสามของโครงการที่จะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้าจะเป็นโรงแรมใหม่ในกลุ่มลักชูรี่แบรนด์ ได้แก่ อนันตรา (Anantara) ทิโวลี (Tivoli) และเอเลวาน่า คอลเลคชั่น (Elewana Collection) และอีกหนึ่งในสามเป็นโรงแรมระดับพรีเมียม อย่าง เอ็นเอช คอลเลคชั่น (NH Collection) อวานี (Avani) และ นาว (nhow) นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานของโรงแรมหรูในเครือ โดยเริ่มจากการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่อนันตราแห่งแรกในประเทศไทย อย่าง อนันตรา หัวหิน รีสอร์ท อีกด้วย

นอกจากนี้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างของแบรนด์ภายใต้กลยุทธ์มาสเตอร์แบรนด์รูปแบบใหม่ ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวในปีนี้ โดยหนึ่งในแผนงานสำคัญคือ การเปิดตัวแบรนด์โรงแรมใหม่ 2 แบรนด์ เพื่อขยายศักยภาพทางธุรกิจ และสร้างโอกาสใหม่ให้กับผู้ประกอบการที่มองหาแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงแรมที่ต้องการปรับเปลี่ยนแบรนด์ โครงการปรับปรุงและดัดแปลงโครงการเดิมที่มีอยู่แล้ว นับเป็นสัดส่วนถึง 38% ของโครงการทั้งหมด โดยส่วนที่เหลือเป็นโครงการสร้างใหม่

ไมเนอร์ยังมุ่งเน้นด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งเป็นกลยุทธ์ครอบคลุมแบรนด์ต่าง ๆ โดยล่าสุดได้เปิดตัว ลายัน ไลฟ์ บาย อนันตรา (Layan Life by Anantara) เวลเนสรีทรีตรูปแบบใหม่ ในภูเก็ต พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการโรงแรมที่ผสานแนวคิดการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ เพื่อยกระดับประสบการณ์การเข้าพักสู่มิติใหม่และมอบประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เข้าพัก

“เรายังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตเชิงกลยุทธ์ในภูมิภาคต่าง ๆ และมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การบริการรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งจะสร้างมูลค่าให้กับเจ้าของโรงแรมและพันธมิตรของเรา นอกจากนี้การต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านการบริการระดับลักชูรี การพัฒนาโครงสร้างแบรนด์ กลยุทธ์การบริหารสินทรัพย์ Asset Right และการขยายโครงการที่พักอาศัยแบบเรสซิเดนซ์ ถือเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนแผนธุรกิจเชิงรุกที่จะพาเราก้าวสู่ความสำเร็จในอนาคตอันใกล้”นายดิลิป ราชากาเรีย กล่าว

ปัจจุบันไมเนอร์ โฮเทลส์ มีโรงแรมและรีสอร์ทกว่า 560 แห่งทั่วโลก คิดเป็นห้องพักกว่า 81,000 ห้อง โดยตัวเลขล่าสุดเผยให้เห็นจำนวนโรงแรมใหม่กว่า 285 แห่ง และห้องพักกว่า 47,000 ห้อง ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การเติบโตเชิงรุกของบริษัทที่มุ่งเน้นการกระจายธุรกิจสู่ทั่วโลก ในขณะที่พอร์ตโฟลิโอของเครือไมเนอร์มากกว่าร้อยละ 50 ตั้งอยู่ในยุโรป แผนการเพิ่มโรงแรมใหม่กว่า 100 แห่งในเอเชีย กว่า 60 แห่งในตะวันออกกลางและแอฟริกา และอีกกว่า 40 แห่งในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ จะช่วยกระจายพอร์ตโฟลิโอของบริษัทให้มีความสมดุลในระดับโลกมากยิ่งขึ้น

*รุกขยายที่พักอาศัยแบรนด์หรูกระจายเมืองสำคัญ

การเดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอด้านที่พักอาศัยแบบเรสซิเดนซ์ จะเป็นส่วนสำคัญของการเติบโตในอนาคตของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ โดยปัจจุบันมีโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ในกว่า 12 ประเทศในฐานะผู้บุกเบิกตลาดที่พักอาศัยแบบเรสซิเดนซ์ตั้งแต่ยุค 90 ด้วยการพัฒนาโครงการต่าง ๆ อาทิ ลายัน เรสซิเดนเซส บาย อนันตรา (Layan Residences by Anantara) ในภูเก็ต ก่อนที่ผู้ประกอบการรายอื่นจะเข้าสู่ตลาด ไมเนอร์ โฮเทลส์ ได้วางแผนเร่งขยายการลงทุนในโครงการที่พักอาศัยทั้งในรีสอร์ทและในเขตเมืองใหญ่ ซึ่งอาจมีการขยายการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยแบบสแตนด์อโลนในเมืองสำคัญ ๆ อีกด้วย

ภายใน อนันตรา อูบุด บาหลี รีสอร์ท (Anantara Ubud Bali Resort) ที่เพิ่งเปิดตัวไป ยังประกอบด้วยเรสซิเดนซ์ที่กำลังจะเปิดตัว ที่จะผสานการบริการระดับพรีเมียมเข้ากับประสบการณ์การพักอาศัยในแบบบูรณาการ ส่วนโครงการเรสซิเดนซ์ในยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ที่ยืนยันแล้ว มีโครงการในราสอัลไคมาห์ (Ras Al Khaimah) ชาร์จาห์ (Sharjah) โอมาน (Oman) และแทนซาเนีย (Tanzania) ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอของไมเนอร์ โฮเทลส์ ในภูมิภาคดังกล่าว

บริษัทยังเล็งเห็นโอกาสการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจเรสซิเดนซ์ในระดับโลกภายใต้แบรนด์อนันตรา และเอ็นเอช คอลเลคชั่น โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลางและยุโรป

*เปิดไทม์ไลน์โครงการสำคัญปี 2568

ปีนี้เป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับ ไมเนอร์ โฮเทลส์ โดยจะมีการทยอยเปิดตัวโครงการใหม่มากมายทั่วโลก โดยมีไฮไลท์สำคัญได้แก่

– เดือนกุมภาพันธ์ – โรงแรมทิโวลี คอปเก ปอร์โต ไกอา (Tivoli Kopke Porto Gaia Hotel): โรงแรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ตั้งอยู่บนเนินเขาไกอา ประเทศโปรตุเกส ภายในพอร์ตไวน์เก่าแก่ มอบประสบการณ์การพักผ่อนท่ามกลางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า

– ไตรมาส 2 – นาว โรม (nhow Rome): โรงแรมแห่งที่ 10 ภายใต้แบรนด์ นาว แบรนด์โรงแรมดีไซน์ล้ำสมัย ช่วยยกระดับพอร์ตโฟลิโอไลฟ์สไตล์ของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ในยุโรป

– ไตรมาส 3 – อวานีพลัส บาร์บารอน เซเชลส์ รีสอร์ท (Avani+ Barbarons Seychelles Resort) : การปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่จะทำให้ที่พักแห่งนี้กลายเป็นรีสอร์ทเรือธงของแบรนด์อวานี ในมหาสมุทรอินเดีย

– ไตรมาส 3 – อนันตรา คาฟิว ริเวอร์ แซมเบีย เต็นท์ แคมป์ (Anantara Kafue River Zambia Tented Camp): การเปิดตัวที่พักแบบเต็นท์แคมป์สุดหรูครั้งแรกของอนันตรา นำเสนอประสบการณ์ซาฟารีสุดพิเศษให้กับแขกในบรรยากาศธรรมชาติอันตระการตา

– ไตรมาส 4 – เอ็นเอช คอลเลคชั่น มัลดีฟส์ รีธิ รีสอร์ท (NH Collection Maldives Reethi Resort): รีสอร์ทที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในมัลดีฟส์จะเปิดให้บริการอีกครั้งด้วยรูปลักษณ์ใหม่ หลังจากการปิดปรับปรุงกว่า 6 เดือน นับเป็นโรงแรมเรือธงแห่งที่ 2 ของเอ็นเอช คอลเลกชั่น บนหมู่เกาะแห่งนี้

นายโอมาร์ โรเมโร (Omar Romero) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและธุรกิจลักชูรี ไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า การรักษาอัตลักษณ์แบรนด์ยังคงเป็นหัวใจสำคัญควบคู่กับการวางแผนเส้นทางใหม่สำหรับการขยายธุรกิจทั่วโลก โดยมุ่งยกระดับพอร์ตโฟลิโอระดับหรูของเรา พร้อมส่งมอบประสบการณ์การเข้าพักที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละแบรนด์ ซึ่งแผนการลงทุนของเราสะท้อนความเชื่อมั่นทั้งในตลาดที่มีอยู่แล้วและตลาดใหม่ จากพื้นฐานที่ว่า การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและคุณภาพสูง คือกุญแจสู่ความสำเร็จและการส่งมอบคุณค่าที่เหนือความคาดหมายให้แก่แขกผู้เข้าพักและเจ้าของโครงการ

ตัวเลขแผนการลงทุนล่าสุดสะท้อนกลยุทธ์การขยายธุรกิจระดับโลกเชิงรุกของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ โดยมีแนวทาง “asset-right” เป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งมุ่งสร้างสมดุลระหว่างการเป็นเจ้าของ การเช่า การบริหารจัดการ และแฟรนไชส์ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและกระจายความเสี่ยง ในขณะที่ประมาณ 70% ของพอร์ตโฟลิโอปัจจุบันของบริษัทจะเป็นทรัพย์สินที่เป็นเจ้าของและเช่า บริษัทได้ตั้งเป้าที่จะปรับสัดส่วนให้เหลือ 50-50 ภายในปี 2570

จากโครงการทั้งหมดที่อยู่ในแผนงาน กว่า 90% จะดำเนินการภายใต้สัญญาการจัดการโรงแรม (Hotel Management Agreements) หรือสัญญาแฟรนไชส์ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บริษัทบรรลุเป้าหมายตามที่วางไว้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ม.ค. 68)

Tags: ,