นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนชนิดผู้ลงทุนทั่วไปที่ไม่รับเงินปันผล (M-MIDSMALL-A), ชนิดเพื่อการออม (M-MIDSMALL-SSF) และชนิดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (M-MIDSMALL-PVD) ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564
กองทุนเปิด M-MIDSMALL ที่เน้นการลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้การบริหารแบบ Active Management นับตั้งแต่ต้นปี 64 จนถึงปัจจุบัน ได้สร้างผลตอบแทนสูงถึง 37.88% ชนะดัชนีเปรียบเทียบ SET TRI ที่มีผลตอบแทนอยู่ที่ 11.12% รวมถึงยังได้รับ Morningstar Rating Overall ที่ 5 ดาว
ปัจจัยที่ทำให้กองทุนดังกล่าวน่าลงทุนในช่วงนี้ มาจากการที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยปี 64 เติบโตที่ 1.5 – 2.5% ขณะที่ไตรมาส 1/64 GDP ติดลบอยู่ที่ 2.6% แต่อย่างไรก็ตามการกระจายวัคซีนในประเทศที่จะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป จะสามารถช่วยให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ในประเทศได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 65 และการเร่งฉีดวัคซีนในประเทศนั้นจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยค่อย ๆ ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง
MFC จึงมีมุมมองว่าตลาดหุ้นไทยในปี 64 นี้จะปรับตัวขึ้นแบบ sideway up ตอบรับการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศไทยและการเปิดประเทศทั่วโลก โดยการที่ภาวะตลาดรวมปรับตัวขึ้นนั้น จึงคาดการณ์ว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็กจะปรับตัวขึ้นได้ดีสอดคล้องเช่นกัน
พร้อมกันนี้ที่ผ่านมายังได้เพิ่มชนิดหน่วยลงทุนอีก 3 ชนิด คือ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไปที่ไม่รับเงินปันผล (M-MIDSMALL-A), ชนิดเพื่อการออม (M-MIDSMALL-SSF) และชนิดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (M-MIDSMALL-PVD) เพื่อเพิ่มโอกาสและทางเลือกในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนที่สนใจการลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและเล็กในตลาดหุ้นไทยและ MAI ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีแนวโน้มการเติบโตสูงในระยะปานกลางและระยะยาว
โดย M-MIDSMALL มีหน่วยลงทุนชนิดใหม่ที่โดดเด่นถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการลดหย่อนภาษี โดยเพิ่มชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม หรือ “M-MIDSMALL SSF” เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็ก นอกจากลงทุนเพื่อคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว ยังได้รับผลประโยชน์ทางด้านภาษีด้วย (M-MIDSMALL-SSF เป็นชนิดหน่วยลงทุนที่เพิ่งเปิดเสนอขายใหม่ ดังนั้นผู้ลงทุนสามารถอ้างอิงข้อมูลของหน่วยลงทุนชิด M-MIDSMALL-D ได้)
นอกจากนี้กองทุน M-MIDSMALL มีกลยุทธ์การจัดพอร์ตโฟลิโอ โดยเน้นหุ้นรายตัวที่มีพื้นฐานดี และมีปัจจัยสนับสนุน (catalyst) เฉพาะตัว ซึ่งแม้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในประเทศ โดยกำไรของหุ้นเหล่านี้ก็จะยังสามารถเติบโตได้ดี และราคาหุ้นมีความแข็งแกร่งแม้ในช่วงตลาดปรับฐาน เช่น หุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจส่งออกและการขนส่งระหว่างประเทศ ยอดการส่งออกสินค้าในไตรมาส 1/64 ได้ฟื้นตัวกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส ที่ 5.3% แม้ว่าจะยังมีการระบาดในประเทศ รวมถึงหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการปลดล็อคพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูงตัวใหม่อย่างกัญชง และหุ้นกลุ่มการเงินที่ประกอบธุรกิจบริหารหนี้เสียและทวงหนี้ จากปริมาณหนี้เสียและหนี้พักชำระในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางธนาคารพาณิชย์จึงต้องทยอยขายหนี้ออกมาปริมาณมากซึ่งจะช่วยให้หุ้นในกลุ่มบริหารหนี้เสีย สามารถมีกำไรและเติบโตได้ดี
กองทุนเปิด M-MIDSMALL เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นของบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและเล็กคาดหวังผลตอบแทนที่ดี และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 1,000 บาท ในการสั่งซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป โดยซื้อขายได้ทุกวันทำการ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มิ.ย. 64)
Tags: M-MIDSMALL, MFC, กองทุนรวม, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนเปิด, ตราสารทุน, ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์, หน่วยลงทุน, หุ้นไทย, เอ็มเอฟซี