KBANK ให้กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า 35.40-36.20 เกาะติด Fund Flow -สถานการณ์ในอิสราเอล

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองสัปดาห์หน้า (13-17 พ.ย.) กรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 35.40-36.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ในอิสราเอล และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อจากมุมมองของผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนต.ค. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก และผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนพ.ย.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของอังกฤษและยูโรโซนและข้อมูลเศรษฐกิจเดือนต.ค. ของจีน อาทิ การผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีก

ในวันศุกร์ที่ 10 พ.ย. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.90 บาทต่อดอลลาร์ฯเทียบกับ 35.71 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (3 พ.ย.)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 6-10 พ.ย.2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 9,343 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 10,679 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 13,467ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 2,789 ล้านบาท)

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือนที่ 35.38 บาทต่อดอลลาร์ฯก่อนจะพลิกอ่อนค่าตลอดช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงแรกสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆในเอเชียท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯหลังจากที่ตลาดทยอยปรับลดโอกาสของการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1ครั้งของเฟดในระยะข้างหน้าลงมา

อย่างไรก็ดี เงินบาทเริ่มพลิกกลับมาอ่อนค่าลงในระหว่างสัปดาห์ตามทิศทางเงินหยวนซึ่งมีปัจจัยลบจากตัวเลขการส่งออกของจีนเดือนต.ค. ที่ยังคงหดตัวต่อเนื่องและตอกย้ำสถานะที่เปราะบางของเศรษฐกิจจีน

นอกจากนี้เงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ สามารถฟื้นตัวกลับมาได้หลังถ้อยแถลงของประธานเฟดสะท้อนว่าเฟดยังคงไม่ปิดโอกาสของการขึ้นดอกเบี้ยต่อเพื่อควบคุมให้เงินเฟ้อสหรัฐฯกลับไประดับเป้าหมายที่ 2% เงินบาทกลับมาอ่อนค่าช่วงท้ายสัปดาห์ตามแรงขายหุ้นและบอนด์ของต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่า หลังเฟดไม่ปิดโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยต่อ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ย. 66)

Tags: , , ,