หุ้น KBANK ราคาปรับตัวลงต่ออีก 2.78% มาอยู่ที่ 122.50 บาท ลดลง 3.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,696.93 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 125.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 125.50 บาท และราคาปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 121.50 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวของบริษัท AMC ที่ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ร่วมทุนกับ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) คือ JKAMC มีแนวโน้มผลการดำเนินงานชะลอตัวจากกำไรที่ลดลง เป็นผลมาจากยอดจัดเก็บหนี้ลดลงอย่างมากถึง 30% เมื่อเทียบรายไตรมาส และไตรมาส 2/67 ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อว จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังอ่อนแอ กระทบต่อการชำระคืนหนี้ และการต่อรองกับลูกหนี้เพื่อชำระคืนหนี้ได้รับผลกระทบส่วนหนึ่งจากกการที่ JKAMC รับซื้อหนี้มาในราคาสูงทำให้เหลือช่องไม่มากในการต่อรองา อีกทั้งส่งผลต่อค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูงขึ้น เป็นปัจจัยฉุดกำไรของ JKAMC ซึ่งกระทบต่อ KBANK ด้วย
ขณะเดียวกัน ผลกระทบดังกล่าวยังทำให้ JKAMC ซื้อหนี้จาก KBANK มีแนวโน้มที่ชะลอลงไปด้วย ซึ่งจะกระทบต่อ KBANK ในการตัดหนี้สูญออกจากงบดุล และทำให้ KBANK อาจจะยังต้องเก็บ NPL ไว้ต่อไปแทนที่จะขายออกไปได้ และมีความเสี่ยงที่อาจจะต้องตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้น หากแผนการขายหนี้ให้กับ JKAMC ต้องชะลอไป ไม่เป็นไปตามแผนที่ตั้งเป้าขายหนี้ให้ JKAMC ในปีนี้ราว 7 หมื่นล้านบาท เพราะไตรมาส 1/67 ขายไปเพียง 8 พันล้านบาท
เคจีไอ จึงปรับลดคำแนะนำหุ้น KBANK ลงมาเป็น “ถือ” จากเดิมที่ให้คำแนะนำ “ซื้อ” และปรับลดราคาเป้าหมายลงมาเป็น 141 บาท/หุ้น จากเดิมที่ 155 บาท/หุ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 67)
Tags: KBANK, ธนาคารกสิกรไทย, หุ้นไทย