น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย [KBANK] กล่าวว่า การเพิ่มอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ของธนาคารกสิกรไทยนั้น ได้เดินหน้าตามยุทธศาสตร์ 3+1 ไว้รองรับ ซึ่งธนาคารมีแผนในการปรับปรุงศักยภาพเครดิต พัฒนาเครดิตสกอร์ริ่ง (Credit Scoring) ใหม่ หากลูกค้าเริ่มมีอาการก็จะเข้าไปดูแลใกล้ชิด โดยธนาคารมั่นใจว่า ROE ของธนาคารในปีนี้จะเพิ่มขึ้น และปี 69 คาดว่าจะเห็น ROE เพิ่มมาเป็นระดับตัวเลข 2 หลักได้
“อยากให้ผู้ถือหุ้นและนักวิเคราะห์แทนที่จะดูผลตอบแทนจาก NIM แต่เป็นการที่เอา NIM หักอัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Credit Cost) เพราะ NIM เดิมสูงด้วยจุดแข็งของธนาคารที่ต้นทุนเงินฝากต่ำสุดในไทย แต่ฝั่งรายได้ลูกค้าก็ลำบาก ทำให้ NPL สูง เราก็ต้องช่วยลูกค้าเหมือนกัน เลยไม่ได้อยากได้ NIM สูงเกินไป ส่วนการลดดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง ก็มีส่วนทำให้ NIM ลดลงเช่นกัน สำหรับตลาดต่างประเทศจะเน้นเพิ่มเรื่อง Payment” น.ส.ขัตติยา กล่าว
ส่วนเป้าหมายทางการเงินที่ธนาคารตั้งไว้ มองว่ายังมีโอกาสเป็นไปได้ตามเป้าหมาย แต่ยอมรับว่าการที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมายนั้นค่อนข้างเหนื่อยและท้าทาย โดยมีปัจจัยท้าทายมาจากเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะเติบโตราว 2.4% ซึ่งสินเชื่อก็ยังโตได้จำกัด โดยสิ่งที่จะสามารถประคองกำไรและเป้าหมายได้ คือ รายได้ค่าธรรมเนียม โดยเฉพาะ FX Rate จากนักท่องเที่ยว
ส่วนการประชุมสมาคมธนาคารในวันพรุ่งนี้ (18 มี.ค. 68) ที่จะมีการหารือแนวทางการช่วยเหลือประชาชนให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้นนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ช่วยกัน และรัฐเองก็พยายามขยายขอบเขตของโครงการคุณสู้เราช่วยให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งในส่วนของธนาคารกสิกรไทย ผู้เข้าร่วมโครงการยังไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ แต่ก็เข้ามาในโครงการมากกว่า 30% แล้ว โดยที่ธนาคารยังพยายามติดต่อลูกค้าให้เข้าร่วมโครงการอยู่เรื่อยๆเช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มี.ค. 68)
Tags: KBANK, ขัตติยา อินทรวิชัย, ธนาคารกสิกรไทย