ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (24-28 มิ.ย.) ไว้ที่ระดับ 36.30-37.00 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนพ.ค.ของธปท. ทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow) สถานการณ์สกุลเงินในภูมิภาค และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย และอัตราเงินเฟ้อที่คำนวณจากดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนพ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. จีดีพีไตรมาส 1/2567 รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามข้อมูลกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ของจีนเช่นกัน
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแกว่งตัวผันผวน แต่แข็งค่ากลับมาท้ายสัปดาห์ ขณะที่ตลาดในประเทศรอติดตามประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยลบจากแรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน โดยเงินบาททยอยแข็งค่ากลับมาช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงหลังตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ของสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด โดยเงินบาทมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมในช่วงท้ายสัปดาห์จากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก และตัวเลขการส่งออกเดือนพ.ค.ของไทยที่ขยายตัว 7.2% YoY สูงกว่าตลาดคาดที่ 2.0% YoY และสูงกว่า 6.8% YoY ในเดือนเม.ย.
ในวันศุกร์ที่ 21 มิ.ย.67 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 36.66 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับ 36.77 บาท/ดอลลาร์ในวันศุกร์ก่อนหน้า (14 มิ.ย.67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 17-21 มิ.ย.67 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 10,680.29 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 8,609 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตรไทย 3,499 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 5,110 ล้านบาท)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มิ.ย. 67)
Tags: Forex, FX, KBANK, ค่าเงินบาท, ธนาคารกสิกรไทย, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท