JR ปี 68 สานต่อ Quick Win+Oil & Gas ดันมาร์จิ้นสูงพร้อมลุยประมูลโปรเจ็คต์ใหม่

นายสุรเดช อุทัยรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ [JR] เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 68 บริษัทฯยังคงสานต่อกลยุทธ์ Quick Win หรือการรับงานโครงการที่มีระยะเวลาสั้น ที่เร่งรับรู้รายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมาได้รับงานประเภทนี้มากขึ้น สะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อบริษัทฯในฐานะผู้รับเหมาฯ ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจงานระบบไฟฟ้าและไอซีที ควบคู่ไปกับการเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งบริษัทฯมีความเชี่ยวชาญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

“ในปีนี้ JR ยังคงเดินหน้าสานต่อกลยุทธ์ Quick Win ควบคู่ไปกับการขยายตลาดการรับงานรับเหมาฯ ธุรกิจ Oil & Gas ซึ่งมีความหลากหลายของประเภทงาน รวมทั้งงานที่เป็นประเภท Green Energy เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างรวดเร็วมั่นคงและยั่งยืน”

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 68 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังภาครัฐและเอกชนเดินหน้าขยายการลงทุนเพิ่ม ซึ่งส่งผลดีกับบริษัทฯในฐานะผู้ให้บริการงานด้านระบบไฟฟ้าและไอซีทีของ JR ซึ่งเติบโตตามเทรนด์โลกที่ทุกภาคส่วนล้วนมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับองค์กร

งานบริการหลักของ JR ประกอบด้วย 1.ธุรกิจรับเหมาวางระบบ (Turnkey Project) ทั้งงานระบบไฟฟ้า (Electrical Power System) ที่ให้การออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง และติดตั้งระบบไฟฟ้าครบวงจร รวมถึงสายส่งไฟฟ้าแรงสูง (High Voltage Transmission Line System) และสถานีไฟฟ้าย่อย (High Voltage Substation) รวมถึงงานเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (Telecom & ICT) ซึ่งรวมถึงการออกแบบ จัดหา ติดตั้งอุปกรณ์ วางระบบรวมทั้งให้คำปรึกษาด้านระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ

2.ธุรกิจการให้บริการซ่อมบำรุงรักษา (Maintenance) โดยบริษัทฯ ให้บริการซ่อมและบำรุงรักษาอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า และระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ และ 3.ธุรกิจการจำหน่ายอุปกรณ์ (Supply) บริษัทฯ จำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า และระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ

รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JR กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือที่จะทยอยรับรู้ (Backlog) ในระยะยาวประมาณ 7,964 ล้านบาท ได้แก่ งานโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพู เฟส 2 มูลค่าเกือบ 7,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า และงานก่อสร้างซับสเตชั่นไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวนกว่า 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นงานอื่นๆ โดยในปีนี้ตั้งเป้า Backlog เพิ่มเป็น 9,000 ล้านบาท ผลักดันธุรกิจในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.พ. 68)

Tags: , , ,