นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทหลังจากไตรมาส 1/66 พลิกขาดทุน 295 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในช่วงไตรมาส 2/66 ผลการดำเนินงานจะยังมีแรงกดดันเข้ามาจากธุรกิจบมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) และบมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC) ที่ยังคงมีผลกระทบจากทิศทางของ NPL ที่อยู่ในระดับสูง และมีการไหลของ NPL ที่ยังเห็นต่อเนื่องในไตรมาส 2/66 แต่มองว่าจะเริ่มเห็นผลกระทบของ SINGER และ SGC ลดลงหลังจากปรับโครงสร้างการบริหารงานใหม่ และปรับแผนการทำธุรกิจในการที่ควบคุมคุณภาพลูกหนี้ และลดต้นทุนมากขึ้น เพื่อแก้ไขสถานการณ์ของทั้ง SINGER และ SGC ให้กลับมาฟื้นขึ้น
“ในช่วงที่ผ่านมาเราไม่เคยเจอสถานการ์แบบนี้เกิดขึ้น ก็เร่งแก้ปัญหาทั้ง SINGER และ SGC ให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลาประมาณ 4 เดือน หลังจากปรับโครงสร้างใหม่ ทำให้ SGC และ SINGER กลับมาแข็งแกร่ง ซึ่งเหมือนกับฟุตบอลที่มีการเปลี่ยนโค้ชเข้ามาดูแล ผมและทีมงานทุกคนที่ทำงานอยู่พร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหา และสร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้ง 6 บริษัทในกลุ่มเจมาร์ท เติบโตขึ้นต่อเนื่อง” นายอดิศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มองว่าการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนจะทำให้ JMART สามารถกลับมาพลิกมีกำไรได้อย่างชัดเจนในไตรมาส 3/66 หากในช่วงไตรมาส 2/66 การแก้ไขปัญหาของ SINGER และ SGC เริ่มเห็นผลขาดทุนลดลง หรืออาจจะพลิกมีกำไรได้เล็กน้อย ซึ่งจะเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆให้ได้ตามแผนที่วางไว้
สำหรับในธุรกิจอื่นทั้ง บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) รวมถึงบมจ.พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป (PRTR) ยังสามารถดำเนินธุกิจไปได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังคงเดินหน้าในการสร้างการเติบโต โดยเฉพาะธุรกิจสุกี้ตี๋น้อยที่ยังเห็นแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถทำกำไรในไตรมาส 1/66 ราว 209 ล้านบาท จาก 46 สาขา เห็นการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะขยายสาขาให้ครบ 60 สาขาภายในปีนี้
ทั้งนี้ “สุกี้ตี๋น้อย” มีแผนจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ภายในปลายไตรมาส 3/66 หรือต้นไตรมาส 4/66 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) คาดว่าจะเสนอขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ราวไตรมาส 2/67 หรือไตรมาส 3/67
นอกจากนี้ บริษัทยังคงมีการลงทุนใหม่ๆต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 2-3 เดือนนี้ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เข้ามาเติมเต็มให้กับ Ecosystem ของ JMART อีกราว 2 ดีล ซึ่งเป็นการลงทุนที่ไซส์ไม่ใหญ่มาก เป็นธุรกิจขนาด SME ที่บริษัทเห็นถึงศักยภาพและนำมาต่อยอดโอกาสในการสร้างการเติบโตให้กับกลุ่ม JMART ได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 66)
Tags: JMART, หุ้นไทย, อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา, เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์