นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บัญชีและการเงิน บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจทั้งปี 66 มีกำไรสุทธิแน่นอน พลิกสถานการณ์จากปี 65 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 4,364 ล้านบาท
เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 1/66 พลิกเป็นบวกแล้ว 301 ล้านบาท ขณะที่คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ราว 80-85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สูงขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 75 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งระดับ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลถือเป็นจุดที่จะไม่ทำให้บริษัทขาดทุนสต็อกน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มไตรมาส 2/66 ยอมรับว่ายังค่อนข้างเหนื่อย เนื่องจากส่วนต่างราคา (Spread) ปิโตรเคมียังอยู่ในระดับต่ำ โดยลงมาอยู่ที่ 14-15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 25 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ประกอบกับ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทก็คาดหวังว่าราคาจะกลับขึ้นไปตามสมมติฐาน เนื่องจากครึ่งปีหลังจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลขับรถท่องเที่ยว (Driving Season) ในสหรัฐฯ และการปิดเทอมในต่างประเทศ พร้อมกันนี้ ในเอเชียยังมีดีมานด์ที่ดีอยู่ โดยเฉพาะจากประเทศจีนที่เริ่มฟื้นตัว
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับลดการสต็อกสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อรับมือกับราคาปิโตรเคมีที่ผันผวน และป้องกันการขาดทุนจากการสต็อกน้ำมันมากเกินไป ซึ่งมีเป้าหมายลด Inventory ลงเหลือ 8 ล้านบาร์เรล จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาร์เรล
ส่วนงบลงทุนปีนี้ที่ตั้งไว้ในระดับ 10,399 ล้านบาท ที่ผ่านมายังใช้ไปน้อยมาก เนื่องจากบริษัทเน้นการสำรองเงินสดเพื่อรับมือกับภาวะราคาปิโตรเคมีที่แย่สุดในรอบ 10 ปี และการพิจารณาลงทุนต่อจากนี้จะต้องมีความชัดเจนพอสมควร
และจากความผันผวนของราคาปิโตรเคมี บริษัทก็ได้มีการกระจายพอร์ตการลงทุนออกไปในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม เช่น การพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ในจ.ระยอง ร่วมกันกับ บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) บนพื้นที่ 2,000 ไร่ คาดว่าจะสร้างรายได้เข้ามาตั้งแต่ปี 67 เป็นต้นไป และมีแผนเข้าประมูลโครงการโซลาร์ฟาร์ม ภาครัฐ รอบ 2 ในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา รวมถึงมีแผนพัฒนาที่ดินติดทะเลใน จ.ระยอง ให้เป็นท่าเรือเชิงพาณิชย์ เพื่อต่อยอดธุรกิจตามแผนระยะกลาง-ยาว คาดว่าจะนำเรื่องเสนอบอร์ดกลางปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ค. 66)
Tags: IRPC, ดูไบ, ท่าเรือระยอง, น้ำมันดิบ, บัญชี, หุ้นไทย, ไออาร์พีซี