บมจ.เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี (CHAO) หุ้นข้าวตัง-สแน๊คหมูในตำนานกว่า 66 ปี ขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 87,684,100 ล้านหุ้น ใช้สร้างโรงงานแห่งใหม่และอัพกำลังผลิต พร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) หมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในเร็วๆนี้
CHAO เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ภายใต้แบรนด์ “เจ้าสัว” และ “โฮลซัม (Wholesome)” เป็นระยะเวลากว่า 66 ปี แบ่งสินค้าออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มขนมขบเคี้ยว (Snacks) คิดเป็นสัดส่วน 81% ของรายได้ทั้งหมด ผลิตภัณฑ์เด่นที่ประสบความสำเร็จ อาทิ ข้าวตัง และหมูแท่ง ส่วนกลุ่มอาหาร (Meal) พร้อมทานและพร้อมปรุง คิดเป็นสัดส่วน 19% อาทิ หมูหยอง และกุนเชียง
สำหรับช่องทางจำหน่ายสินค้าของ CHAO หลากหลายและครอบคลุมร้านค้าปลีกและค้าส่งสมัยใหม่ (Modern Trade), ร้านค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade), ช่องทางส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ และช่องทางอื่น ๆ
นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHAO เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า เงินระดมทุนส่วนแรกใช้เพื่อสร้างโรงงานแห่งที่สองของแบรนด์โฮลซัม ซึ่งจะผลิตเพื่อการส่งออก เนื่องจากโรงงานเดิมกำลังการผลิตค่อนข้างแน่นแล้ว ขณะที่เงินระดมทุนอีกส่วนจะนำไปขยายกำลังผลิตโรงงาน “เจ้าสัว” เงินระดมทุนส่วนที่เหลือใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระหนี้สถาบันการเงิน
“ปัจจุบันโรงงานผลิตสินค้าแบรนด์เจ้าสัวที่เป็นเนื้อหมู กำลังผลิต 4,500 ตันต่อปี จะขยายเพิ่มอีก 1,000 ตัน รวมเป็น 5,500 ตันต่อปี ส่วนแบรนด์โฮลซัมที่เป็นโรงงานส่งออก ปัจจุบันผลิต 2,000 ตันต่อปี จะสร้างโรงงานแห่งใหม่เพิ่มอีก 2,000 ตัน เป็น 4,000 ตันต่อปี ดังนั้น กำลังผลิตรวมกันทั้งหมดคือ 9,500 ตันต่อปี น่าจะเห็นภาพประมาณช่วง Q4/68” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว
แผนธุรกิจช่วง 3-5 ปี สำหรับแผนภายในประเทศ เรายังคงเดินหน้าขยายมาร์เก็ตแชร์ของตลาดข้าวตัง และ Pork Snack อย่างต่อเนื่อง แม้เราจะเป็นผู้นำในตลาดนี้อยู่แล้ว แต่ยังเห็นโอกาสในการเติบโตได้อีก เราก็จะขยายตลาดในประเทศต่อไป
“สินค้าขนมจะมีโอกาสในการทานบ่อยกว่าสินค้าที่เป็นอาหาร เนื่องจากอาหารทานเป็นมื้อ แต่ขนมสามารถทานได้บ่อยครั้งมากกว่า และสินค้าขนมก็มีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูงกว่ากลุ่มอาหารด้วย” นางสาวณภัทร กล่าว
สำหรับแผนส่งออกสินค้า ปัจจุบันเราส่งออกไปเพียง 12 ประเทศเท่านั้น มีอีกหลายประเทศที่เรายังไม่ได้ไป และ SKU สินค้าส่งออกก็ยังไม่ค่อยมาก ซึ่งเราสามารถขยายตรงนี้ได้อีก และสินค้าที่เราจะส่งออกไปนั้นก็ค่อนข้างจะตรงเทรนด์ของผู้บริโภคในต่างประเทศก็คือ Better-for-You Snack เป็นขนมขบเคี้ยวที่มีคุณประโยชน์มากกว่า ซึ่งแผนส่งออกสินค้าก็จะสอดคล้องไปกับแนวคิดของบริษัท คือ Bring Local to Global
นางสาวณภัทร กล่าวอีกว่า จากข้อมูลการวิจัยตลาด ประเทศหลักที่มีการบริโภคขนมต่อหัวต่อปีจำนวนมาก คือประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งทั้งสองประเทศเราเข้าไปแล้ว และถือเป็นตลาดหลักของเรา แต่ก็ยังมีโอกาสขยายสินค้าเข้าไปในช่องทางอื่น ๆ เพิ่มอีก นอกจากนั้น ยังมีประเทศอื่น ๆ อย่าง ออสเตรเลีย หรือเกาหลีใต้ ที่เราเข้าไปแล้วเราก็มีแผนขยายเพิ่มเติม
และอีกกลุ่มประเทศที่สำคัญ คือ กลุ่มประเทศบริโภคอาหารฮาลาล เนื่องจากโรงงานของโฮลซัม แยกออกมาจากโรงงานเจ้าสัว และได้รับการรับรองระบบฮาลาล สามารถขายสินค้าในประเทศกลุ่มตะวันออกกลางได้ด้วย ก็จะเป็นอีกโซนที่เราสนใจ สินค้าที่ผลิตอยู่ คือ แครกเกอร์ธัญพืช ข้าวตังหน้ากุ้งหยอง ข้าวตังหน้าปลาหยอง และหนังปลาทอดกรอบ เป็นต้น
“นอกเหนือจากแผนกลยุทธ์ดังกล่าว หากมีธุรกิจที่น่าสนใจเราก็พร้อมที่จะเปิดโอกาสพิจารณาในแง่ของการร่วมทุนเพื่อจะหา Synergy ร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด” นางสาวณภัทร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 67)
Tags: CHAO, IPOInsight, SCOOP, SET, ข้าวตังหมูหยอง, ตลาดหลักทรัพย์, หุ้นไทย, เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี