ตลาดหุ้นไทยในปีนี้ย่ำแย่ เรียกว่าแทบจะแย่สุดในโลก ตั้งแต่ต้นปีดัชนี SET ไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง จากจุดสูงสุดของปี 66 ที่ระดับ 1,695.99 จุดเมื่อ 13 ม.ค.66 และลงไปต่ำสุดที่ 1,366.19 จุด เมื่อวันที่ 27 ต.ค.66 ร่วงลงไป 329.80 จุด
ตั้งแต่ต้นๆ ปี ตลาดหุ้นไทย ต้องเจอเรื่องช็อกครั้งใหญ่กับขบวนการปั่นหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) และต่อมาก็เจอกับการฉ้อโกงใน บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) จนนำไปสู่ความเสียหายมหาศาลของนักลงทุนสถาบันไปจนถึงรายย่อยที่เข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุน รวมถึงหุ้นกู้ STARK ที่เกิดปัญหา Default ตามมา ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนหดหายไปอย่างรุนแรง
และหนำซ้ำหุ้น IPO ที่เคยเป็นสีสันของตลาดหุ้นไทย และปีนี้ก็มีจำนวนมากที่ทยอยเข้าเทรด เพราะเป็นปีสุดท้ายที่ใช้เกณฑ์เดิม แต่นักลงทุนก็ต้องผิดหวังซ้ำเมื่อราคาหุ้น IPO หลายตัวเทรดวันแรกร่วงไม่เป็นท่า อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะในอดีตหุ้น IPO ส่วนใหญ่จะดีดขึ้นไปให้ได้กำไรกันบ้าง
ขณะที่ปัจจัยภายนอกก็ไม่ได้สดใส ปัจจัยภายในก็มาซ้ำเติม รุมเร้าตลาดหุ้นไทยมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ผสมกับเหตุการณ์ร้าย ๆ บั่นทอนความเชื่อมั่นมากขึ้นไปอีก
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงกำลังเตรียมแผนงานครั้งใหญ่ที่จะเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมา โดยนายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ระบุว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังปรับปรุงกฎเกณฑ์ครั้งใหญ่ ทั้งการกำกับดูแลการซื้อขายหุ้น บจ.และ ผู้ลงทุน ที่จะทยอยมีผลบังคับใช้ในปี 67-68 รวมไปถึง การปรับกระบวนการทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อย่างเข้มข้นเพื่อออกมาให้ข้อมูลกับนักลงทุนได้รวดเร็วทันสถานการณ์ และเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจการลงทุนได้ดีขึ้น เป็นเรื่องต้องจับตากันอย่างใกล้ชิด!
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ย. 66)
Tags: MORE, มอร์ รีเทิร์น, แมนพงศ์ เสนาณรงค์