กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของเอเชียในปีนี้ โดยระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชียเป็นไปอย่างล่าช้า และยังคงกดดันให้บรรดาธนาคารกลางในเอเชียใช้มาตรการเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เม็ดเงินทุนจะไหลออกจากภูมิภาค
ทั้งนี้ IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) เมื่อวานนี้ (25 ม.ค.) โดยระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียในปี 2565 มีแนวโน้มชะลอตัวลงสู่ระดับ 5.9% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 6.3%
นายชางหยง รี ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ IMF เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า นอกเหนือจากการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินของเฟดแล้ว แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ยังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของเอเชียด้วย
“เราไม่ได้คาดว่า การที่เฟดปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติจะส่งผลกระทบร้ายแรงหรือทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากไหลออกจากเอเชีย แต่เราคาดว่าจะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชียเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของเฟดอาจจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นด้วย”
นายรีกล่าว
นายรียังระบุด้วยว่า มีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะกลับมาสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ซึ่งจะยิ่งทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้นและรุนแรงขึ้น พร้อมกับคาดการณ์ว่า เอเชียมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้นในปีนี้เช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ม.ค. 65)
Tags: IMF, ดอกเบี้ย, เงินเฟ้อ, เฟด, เศรษฐกิจเอเชีย