นายภักดี อนิวรรตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตอเรจ เอเชีย (I-STORE) กล่าวว่า บริษัทเตรียมแผนขยายสาขาเพิ่มเป็น 6 แห่งกระจายทั่ว กทม.ก่อนออกลุยหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัดรองรับการเติบโตของจากภาพรวมธุรกิจ Self-Storage พร้อมวางเป้าผลักดันรายได้ปี 66 เติบโตก้าวกระโดด 150-200% ปูทางก้าวจากตลาด LiVEx ไปสู่ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปี 67 เพื่อขยายอาณาจักรออกสู่น่านน้ำอาเซียน
บริษัทเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเติบโตด้วยการเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ไม่มีประกันครั้งที่ 1/2566 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2568 อัตราดอกเบี้ย 6.95% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 150 ล้านบาท เสนอขายแก่ กลุ่มผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ (PP-II&HNW) คาดว่าจะกำหนดวันจองซื้อในช่วงวันที่ 19-21 มิ.ย.66 เพื่อนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนมาใช้ขยายงาน
ในครึ่งหลังปี 66 บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ สาขาอุดมสุข และสาขาอ่อนนุช อีกทั้งในอนาคตมีแผนจะขยายสาขาไปยังหัวเมืองใหญ่ทั้งภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่ เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์และความต้องการพื้นที่เก็บสินค้าของคนเมือง อีกทั้งบริษัทยังมีบริการติดตั้งและจำหน่ายตู้เก็บของภายใต้แบรนด์ i-Store ในพื้นที่โครงการคอนโดมิเนียมหรือนิติบุคคลอาคารชุด (License Unmanned Storage) ในกรุงเทพฯ นำร่องติดตั้งให้กับ Developer เจ้าใหญ่ในไทย 2-3 ราย และไตรมาส 4/66 คาดว่าจะได้ติดตั้งตู้ประมาณ 20 โครงการตามเป้าหมาย
ปัจจุบันบริษัทมีสาขาให้บริการเต็มรูปแบบทั้งหมด 4 สาขา ได้แก่ สาขาสีลม อัตราเช่า 98%, สาขาสุขุมวิท 24 อัตราเช่า 93%, สาขาสุขุมวิท 71 อัตราเช่า 57% และ สาขาใหม่ สาทรวัน เปิดให้บริการเมื่อเดือน เม.ย.66 ขณะนี้มีอัตราการเช่าแล้ว 6% และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายใน 3 ปีบริษัทจะมีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 10,000 ตารางเมตร จากจำนวนทั้งหมด 10 สาขาตามแผนงาน
พร้อมกันนั้น บริษัทยังมุ่งเน้นความร่วมมือกับผู้ถือหุ้นและพันธมิตรทางธุรกิจ อาทิ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) อีกทั้งบริษัทเป็นผู้ให้บริการ Self-Storage แห่งแรกที่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด เข้าร่วมลงทุน และ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) เข้าลงทุนผ่าน “กองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs” ตอกย้ำศักยภาพการบริหารธุรกิจที่มีคุณภาพ ผ่านการขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุม และ เพิ่มบริการใหม่ให้ครบครันทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า
นายภักดี กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 66 ราว 80-100 ล้านบาท เติบโต 150-200% จากปีก่อน ตามภาพรวมธุรกิจ Self-Storage ในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยพฤติกรรมการเลือกที่พักอาศัยในเขตเมืองและมีแนวโน้มของพื้นที่อยู่อาศัยลดลง ประกอบกับ ตลาดธุรกิจออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากส่งผลให้เกิดความต้องการพื้นที่การจัดเก็บสินค้ามากขึ้น
“อุตสาหกรรม Self-Storage ในประเทศไทยยังมีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงที่ผ่านมามีจำนวนธุรกิจให้เช่าพื้นที่เปิดให้บริการเพียง 32 แห่งทั่วประเทศ หรือเทียบเท่าประชากรทั้งประเทศเพียง 1% เท่านั้น บริษัทจึงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจผ่านการเพิ่มสาขาการให้บริการให้ครอบคลุม ควบคู่ไปกับการสร้างบริการที่สะดวกสบาย มีคุณภาพและราคาเป็นมิตร เสมือนว่า i-Store เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งในบ้านลูกค้า ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทที่มุ่งเน้นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับคนที่อาศัยอยู่ในเมือง โดยสร้างการเติบโตไปพร้อมกับการขยายตัวของอสังหาฯในย่าน CBD และทำเลคุณภาพต่างๆ ส่งผลให้มีจำนวนอัตราการเช่าต่อสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง จากความมั่นใจในศักยภาพที่ดีของบริษัท คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ตรงตามเป้าหมาย” นายภักดี กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนั้น บริษัทยังมองโอกาสการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอาเซียน ทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย หลังจากปรับปรุงคุณสมบัติครบถ้วนเพื่อย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปี 2567
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มิ.ย. 66)
Tags: I-STORE, ตลาดหลักทรัพย์, ตลาดหุ้น, ภักดี อนิวรรตน์, สตอเรจ เอเชีย, หุ้นกู้, หุ้นไทย, เอเชีย