กลุ่มธนาคารพาณิชย์รีบาวด์หลังจากร่วงมาเมื่อวานนี้ เมื่อเวลา 10.09 น.
KTB บวก 0.62% เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มาที่ 16.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 588.78 ล้านบาท
KBANK บวก 0.40% เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มาที่ 125.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 525.55 ล้านบาท
SCB บวก 0.47% เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มาที่ 106.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 178.13 ล้านบาท
BBL บวก 0.35% เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มาที่ 144.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 253.31 ล้านบาท
TTB บวก 0.57% เพิ่มขึ้น 0.01 บาท มาที่ 1.77 บาท มูลค่าซื้อขาย 72.77 ล้านบาท
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.พาย กล่าวว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้รับโมเมนตัมเชิงบวกจากการคงดอกเบี้ยของประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยในระดับสูงต่อเนื่อง ทำให้ความกังวลว่า NIM อาจลดลงเร็วนั้นน้อยลงไป ทำให้มองทิศทางการดำเนินงานของกลุ่มแบงก์ครึ่งแรกของปี 67 จะทำได้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาส 1/67 ที่ยังเห็นการเติบโตทั้ง YoY และ QOQ จาก NIM ทรงตัวสูง และการที่ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกที่ยังทำได้ดีจะส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ยังให้ Dividend yield ที่ดีในระดับ 5-7% ขณะที่ Valuation ของหุ้นในกลุ่มแบงก์ถือว่าไม่แพง
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายจากคุณภาพสินเชื่อบางกลุ่มลูกค้าที่เปราะบางอยู่บ้าง ทำให้จะยังคงเห็นการคุมเข้มในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทำให้ภาพรวมของสินเชื่อในปีนี้อาจจะเติบโตเพียงเล็กน้อย
ขณะที่ บล.ทรีนีตี้ ประเมินงบการเงินไตรมาส 1/67 ของธนาคารส่วนใหญ่จะออกมาดีขึ้น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล ในขณะที่ YoY มองว่าจะค่อนข้าง Flat แต่จะมี BBL ที่คาดว่าจะเติบโตได้ 5% YoY
โดยเมื่อวานนี้ (17 เม.ย.) TISCO ได้ประกาศกำไร 1Q67 ที่ 1,733 ล้านบาท ลดลง 3% QoQ และลดลง 3% YoY ใกล้เคียงกับคาด ส่วนสินเชื่อทรงตัว ขณะที่ NIM อ่อนตัวลงจากต้นทุนเงินฝากสูงขึ้น ส่วนด้านรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารอ่อนตัวลงตามฤดูกาล ด้านกำไรจากเงินลงทุนปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ทรงตัว แต่ NPL สูงขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อ High Yield แต่ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 105 บาท Upside จากราคาเป้าหมายไม่สูง แต่มีปันผลยังค่อนข้างจูงใจ
บล.เอเอสแอล มองกระแส Higher for longer จะกลับมาในช่วงไตรมาส 2/67 และไตรมาส 3/67 หลังตลาดเริ่มปรับ Timing ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นช่วงเดือนก.ย. หนุนให้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond yield) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารในระยะสั้น โดยเลือก BBL, KBANK, KTB, SCB และ TTB
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 เม.ย. 67)
Tags: ธนเดช รังษีธนานนท์, หุ้นกลุ่มธนาคาร, หุ้นแบงก์