GULF บวก 2.19% ขึ้นนำกลุ่มโรงไฟฟ้ารับแรงซื้อสะสมรอโอกาสโตระยะยาว

GULF บวก 2.19% หรือเพิ่มขึ้น 1.00 บาทมาที่ 46.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 215.50 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.13 น. จากราคาเปิด 46.00 บาท ราคาสูงสุด 46.75 บาท ราคาต่ำสุด 46.00 บาท

บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ให้เป็นจังหวะ “สะสม” หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า เช่น BGRIM, GPSC, GULF หลังราคาปรับลงมามากเกินไปจากผลกระทบการปรับลดค่า Ft แต่มีโอกาสที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะปรับขึ้นค่า Ft ในงวด ม.ค.-เม.ย.67

ด้าน บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ มองการเติบโตของ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) โดยปีหน้าโรงไฟฟ้าในไทยจะมีกำลังการผลิตเข้ามาเพิ่มกว่า 2,490 เมกะวัตต์ (MW) โดยหลักจากโครงการ GPD เฟส 3-4 ที่ระยอง และโครงการ HKP ที่ราชบุรี นอกจากนี้ยังมีโครงการ solar ที่เซ็น PPA ไปในเดือนต.ค.66 ทั้งหมด 649.4 MW คาดจะ COD ภายใน Q4/67 รวม 295 MW และที่เหลือในปี 68

ด้านธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ 1. การนำเข้า LNG จะเริ่มนำเข้ามี.ค.67 สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้า HKP

2. โรงไฟฟ้า Jackson คาดจะมีผลประกอบการดีขึ้นตามราคาก๊าซ Henry Hub

3. ธุรกิจดีจิทัล ล่าสุด Gulf Binance จะเปิดให้ซื้อขายเป็นการทั่วไปช่วงต้นปี 67

นอกจากนี้ ยังมีโครงการในมือสำหรับการเติบโตในระยะยาว ได้แก่ โครงการ Renew ในไทยที่จะมีการลงนาม PPA และประมลเพิ่มเติมในอนาคต โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในสปป.ลาว ที่มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นกว่า 1,000 MW และคาดทยอย COD ตั้งแต่ปี 73-76 รวมถึงธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจดิจิทัลที่จะเข้ามาหนุนกำไรตั้งแต่ปี 68 เป็นต้นไป

โดยรวมทางฝ่ายยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตที่จะเข้ามาต่อเนื่องในอนาคต รวมถึงระยะสั้นเมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่อื่นจะมีผลกระทบจากนโยบายลดค่าไฟค่อยข้างน้อย คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 58.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ย. 66)

Tags: , , ,