นายธนากร มนูญผล รองกรรมการผู้อำนวยการหน่วยงาน Group Investment บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมเปิดตัวธุรกิจ NFT ซึ่งเป็นการร่วมมือกับพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรหลายราย โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในการเปิดตัวธุรกิจ NFT ในช่วงไตรมาส 1/65
ส่วนธุรกิจ NFT ที่บริษัทจะเปิดตัวมานั้น จะเป็นการนำคอนเทนท์และสินค้าต่างๆของบริษัทมาเปลี่ยนสู่รูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะมีการออกเป็น NFT ออกมา เพื่อให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ใหม่ๆเข้ามาจากช่องทางดิจิทัลได้ ซึ่งเป็นตามการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ก้าวสู่การเป็นเศรษฐกิจยุคดิจิทัล (Digital Economy)
“เราคงไม่ทำแพลตฟอร์มเองขึ้นมา แต่เราจะไปร่วมกับพันธมิตรที่ทำแพลตฟอร์ม Digital Asset อยู่แล้ว ซึ่งมีคุยหลายราย แล้วเราจะนำ Content และ Inventory ที่เรามีมา Convert เป็น Digital asset ในรูปแบบ NFT ทำให้เรามีรายได้ใหม่ๆเข้ามาจาก Digital มากขึ้น”
นายธนากร กล่าว
สำหรับแนวโน้มภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 64 นายธนากร มั่นใจว่าแนวโน้มของกำไรจะมากกว่าปีก่อนและเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด แม้ว่าในส่วนของรายได้ในปี 64 จะยังค่อนข้างทรงตัวจากปีก่อน เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปินและธุรกิจจัดงานคอนเสริต์และอีเว้นท์ในปีนี้หายไป ซึ่งมีสัดส่วนรายได้รวมกันกว่า 30-40% ของรายได้รวม
ขณะที่ธุรกิจเพลงที่เป็นธุรกิจหลักที่มีดส่วนรายได้ราว 46% ยังมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายได้ที่มาจากช่องทางดิจิทัล อีกทั้งยังมีแรงกดดันจากภาพยนตร์ในเครือ GDH ในปีนี้ที่เข้าฉายได้เพียง 3 เรื่อง จากแผนที่วางไว้ 6 เรื่อง ทำให้มีแรงกดดันรายได้เข้ามามาก
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำไรได้นับปัจจัยหนุนจากการบันทึกกำไรพิเศษเข้ามา 2 ส่วน ได้แก่ การลดสัดส่วนการถือหุ้นบมจ. โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS) ออกไปบางส่วน ซึ่งบันทึกกำไรพิเศษเข้ามาแล้วราว 200 ล้านบาท และการนำหุ้ยบมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) และนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะมีการบันทึกกำไรพิเศษเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/64 เป็นปัจจัยที่หนุนการเติบโตของกำไรที่โดดเด่นในปีนี้ และทำให้ไตรมาส 4/64 คาดว่ากำไรจะมีความโดเด่นด้วยเช่นกัน แม้รายได้คาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 3/64 ก็ตาม
ส่วนในปี 65 บริษัทมองว่าหากไม่มีปัจจัยการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่เข้ามากระทบกับกิจกรรมในประเทศ คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของรายได้กลับมา โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจบริหารจัดการศิลปินและธุรกิจจัดงานคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ ที่คาดว่าจะสามารถเริ่มกลับมาได้ในปีหน้า ขณะที่ธุรกิจเพลงยังคงมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และยังมีธุรกิจ NFT ที่เข้ามาเสริมรายได้ รวมถึงการฉายภาพยนตร์ในเครือ GDH ที่วางแผนเข้าฉายในปี 65 ไว้จำนวน 5 เรื่อง หากเป็นไปตามแผนคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของรายได้กลับมาในปี 65 ได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 64)
Tags: GRAMMY, จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, ธนากร มนูญผล, สินทรัพย์ดิจิทัล, หุ้นไทย