นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายพัฒนาธุรกิจ บมจ. กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (GPI) เปิดเผยว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังของปีนี้จะโฟกัสการขยายธุรกิจ 6 แกนหลัก ตามที่ได้ปรับโครงสร้างเป็นที่เรียบร้อยเมื่อปีที่ผ่านมา ได้แก่ 1) Event, Exhibition & Festival จะนำความเชี่ยวชาญการจัดงานมหกรรมยานยนต์ “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ที่ยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคต่อยอดสู่การจัดงานอีเวนต์ เอ็กซิบิชั่นและเฟสติวัลรูปแบบอื่นๆ โดยเฉพาะด้านไลฟ์สไตล์ & เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เพื่อรับการฟื้นตัวและตอบสนองประชาชนที่ต้องการสัมผัสเข้าร่วมงานที่จัดแบบออนกราวด์
2) Lifestyle Media + News จะมุ่งสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อด้วยกลยุทธ์ O2O เพื่อขยายฐานลูกค้า 3) Award & Trophy ได้แก่ การจัดงานประกาศรางวัลที่เกี่ยวกับยานยนต์ ท่องเที่ยว และกีฬา 4) Sport & Competitions จะรุกขยายการจัดงานสปอร์ตอีเวนต์และดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ต 5) Printing & Packaging มีเป้าหมายขยายกลุ่มลูกค้าสู่งานพิมพ์แพคเกจจิ้งเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และ 6) Others ที่จะมุ่งสร้างรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้นจากธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจตกแต่งรถยนต์, ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชนแปรรูป ฯลฯ
ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มธุรกิจ Event, Exhibition & Festival อยู่ระหว่างวางแผนการจัดงานเอ็กซิบิชั่นเกี่ยวกับของสะสม ซึ่งในตลาดยังไม่มีผู้จัดงานในรูปแบบดังกล่าวมากนัก และการจัดงาน Meet & Greet หรืองานคอนเสิร์ตของศิลปินต่างประเทศ หลังจากได้รับการตอบรับที่ดีจากการจัดงานแฟนมีตติ้ง (Fan Meeting) “จีชางอุค” ศิลปินหนุ่มเกาหลีสุดฮอตเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และได้สร้างมาตรฐานใหม่แก่การจัดงานดังกล่าว เช่น การจัดกิจกรรมจับฉลากลุ้นของรางวัลภายในงาน เป็นต้น
นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ GPI กล่าวว่า กลยุทธ์ครึ่งปีหลังจะรุกขยายการรับงานพิมพ์ในกลุ่มธุรกิจ Printing & Packaging หลังจากภาพรวมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวทยอยฟื้นตัว ปัจจุบันได้รับงานพิมพ์โบชัวร์กว่า 1 ล้านฉบับ และงานพิมพ์หนังสือประวัติการแสดงโขนกว่า 10,000 เล่ม จะทยอยส่งมอบภายในปีนี้ นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจ Event, Exhibition & Festival มีความต้องการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดจากผู้ประกอบการยานยนต์เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยภาพรวมการจัดกิจกรรมดังกล่าวถือว่าฟื้นตัวแล้ว 70-80% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิด COVID-19
ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับงานจัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์จากค่ายฟอร์ดรวมกว่า 10 สนาม กระจายไปตามจังหวัดต่างๆ โดยจะเป็นการทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ทั้งในรูปแบบ On Road และ Off Road ปัจจุบันได้จัดกิจกรรมไปแล้ว 3-4 สนาม และจะทยอยจัดกิจกรรมส่วนที่เหลืออีก 8-9 สนามในช่วงที่เหลือของปีนี้ จึงคาดว่ารายได้จากงานพิมพ์และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในปีนี้จะเติบโตเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน
นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายการผลิต GPI กล่าวว่า สำหรับกลุ่ม Sport & Competitions ได้วางกลยุทธ์ขยายการจัดงาน โดยการดำเนินธุรกิจดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ต ปัจจุบันมี 3 รายการหลักที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่ 1) การจัดแข่งขันเกมแข่งรถเสมือนจริงรายการ SINGHA E-RACEING CHALLENGE 2023 ให้กับค่ายสิงห์ คอร์ปอเรชั่น โดยในช่วง 5 เดือนแรกได้จัดแข่งขันแล้ว 4 สนาม คงเหลือที่จะจัดในช่วงที่เหลือของปีนี้อีกกว่า 15 สนาม ซึ่งจะจัดในวันเดียวกับที่มีการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน (F1)
2) การจัดแข่งขันรายการ Gran Turismo Pro Series 2023 รวม 3 ซีซันส์เพื่อชิงแชมป์ประเทศไทย โดยบริษัทฯ จะมีรายได้จากการสปอนเซอร์ที่สนับสนุนการแข่งขัน ปัจจุบันได้จัดแข่งขันซีซันส์ที่1 เป็นที่เรียบร้อย ส่วนซีซันส์ที่ 2 จะเริ่มแข่งขันต้นเดือนมิถุนายนนี้ เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ และซีซันส์ที่ 3 จะแข่งขันในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนการจัดแข่งขันรายการ B-Quik eRacing Team Challenge 2023 แก่ B-Quik ได้ขยับช่วงเวลาจัดแข่งขันเป็นครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งจากแผนกลยุทธ์ดังกล่าวจะส่งผลดีต่อภาพรวมรายได้ครึ่งปีหลังของบริษัทฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มิ.ย. 66)
Tags: กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล, งานพิมพ์, พีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา, มหกรรมยานยนต์, มอเตอร์, หุ้นไทย, อีเว้นต์