ผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันนี้ (19 ก.ค.) ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวอังกฤษขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนก.ค. 2567 แต่การมีรัฐบาลชุดใหม่และผลงานของทีมฟุตบอลชายทีมชาติอังกฤษไม่ได้ส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นอย่างมีนัยสำคัญ
สถาบันวิจัยตลาด GfK เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้โดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอังกฤษอยู่ที่ -13 ในเดือนก.ค. แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2564 แต่ขยับขึ้นจากระดับ -14 ในเดือนมิ.ย.เพียงเล็กน้อย
ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ -12
นายโจ สตาตัน ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ลูกค้าของ GfK กล่าวว่า ดัชนีย่อยที่วัดความเต็มใจของผู้บริโภคในการซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ปรับตัวดีขึ้น 7 จุด ซึ่งอาจเป็นข่าวดีสำหรับร้านค้าปลีก นอกจากนี้ ดัชนีวัดสถานะทางการเงินส่วนบุคคลก็ปรับตัวดีขึ้น 2 จุดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่มีต่อเศรษฐกิจอังกฤษยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และชัยชนะอย่างถล่มทลายของพรรคแรงงาน (Labour Party) ในการเลือกตั้ง หรือการที่ทีมชาติอังกฤษเข้าชิงชนะเลิศในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ก็ไม่ได้มีผลกระทบที่ชัดเจนต่อบรรยากาศของประเทศ ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์นี้อยู่ในช่วงที่ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. ถึง 12 ก.ค.
“ดังนั้น ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนก.ค.จึงบ่งชี้ถึงความระมัดระวัง เนื่องจากประชาชนกำลังรอดูว่ารัฐบาลอังกฤษชุดใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมและสถานะทางการเงินส่วนบุคคลของตนอย่างไร”
นายสตาตันกล่าว
ทั้งนี้ นายเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ ให้คำมั่นว่าจะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ทีมชาติอังกฤษพ่ายแพ้ต่อสเปนในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2024
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ค. 67)
Tags: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, อังกฤษ