ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวอังกฤษเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. 2567 สู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบสองปีครึ่ง โดยได้รับแรงหนุนจากการที่ภาคครัวเรือนมีมุมมองบวกเกี่ยวกับสถานะการเงินส่วนบุคคล ตามผลสำรวจที่จัดทำขึ้นก่อนการประกาศการเลือกตั้งของนายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค
สถาบันวิจัยตลาด GfK เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (24 พ.ค.) โดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนพ.ค.อยู่ที่ -17 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2564 โดยเพิ่มขึ้น 2 จุดจากระดับของเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ -18
ผลสำรวจซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2517 และไม่ได้ปรับค่าตามฤดูกาลนั้น มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.ของแต่ละปี อย่างไรก็ตาม นายกฯซูนัคย่อมยินดีกับค่าความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นนี้ ในขณะที่เขาพยายามจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้กลับไปโหวตพรรคอนุรักษนิยมของเขาก่อนการเลือกตั้งระดับชาติในวันที่ 4 ก.ค.นี้
สี่ในห้าขององค์ประกอบในผลสำรวจที่วัดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการเงินส่วนบุคคล ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. โดยมีเพียงดัชนีการซื้อของชิ้นใหญ่เท่านั้นที่ลดลง
นายโจ สตาตัน ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ลูกค้าของ GfK กล่าวว่า “โดยรวมแล้ว ผู้บริโภคสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าสภาวะต่าง ๆ กำลังดีขึ้น ผลลัพธ์ที่ดีนี้ทำให้เป็นที่คาดหวังว่าความเชื่อมั่นจะเติบโตต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางปี 2564 ที่ 2.3% ในเดือนเม.ย. แม้ว่าจะลดลงน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ก็ตาม ในเดือนเดียวกันนั้นเอง ค่าแรงขั้นต่ำของอังกฤษยังเพิ่มขึ้นเกือบ 10% และอัตราเงินสมทบประกันสังคมแห่งชาติที่ลูกจ้างจ่ายยังลดลง 2 จุดเปอร์เซ็นต์อีกด้วย
“ด้วยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ลดลงล่าสุดและโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะลดลงในเวลาที่เหมาะสม แนวโน้มย่อมเป็นไปในเชิงบวกอย่างแน่นอนหลังจากมีช่วงหยุดนิ่งเป็นเวลานาน”
นายสตาตัน กล่าว
อนึ่ง GfK ทำการสำรวจผู้บริโภคจำนวน 2,009 คนในระหว่างวันที่ 1-15 พ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 67)
Tags: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, อังกฤษ