นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต (FWD) เปิดเผยว่า บริษัทคาดเบี้ยประกันชีวิตรับใหม่ในปี 65 จะมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจการทำประกันมากยิ่งขึ้นจากความเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นใหม่ รวมไปถึงสังคมไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งบริษัทได้จะให้ความสำคัญไปยังประกันสุขภาพ ประกันเพื่อการเกษียณ และประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked)
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เน้นการขยายช่องทางขายไปยังช่องทาง Digital ตามกลยุทธ์ Digital by desing มากยิ่งขึ้น โดยได้พัฒนาเทคโนโลยีต่างๆให้มีความเหมาะสมและทันสมัยที่จะตอบโจทย์ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
“ในปีหน้าเราเชื่อว่ายังมีความท้าทายใหม่หลายอย่างที่จะเข้ามา ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และ ขีดความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ระมัดระวังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรามองว่ายังมีโอกาสอีกมากสำหรับธุรกิจประกันชีวิตเนื่องจากผู้บริโภคเริ่มเปิดใจและเล็งเห็นความสำคัญของการทำประกันชีวิตมากขึ้น ซึ่งเรายังคงสานต่อภารกิจเปลี่ยนมุมมองของคนที่มีต่อการประกันชีวิต ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย รวมทั้งยังมีแผนสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”
นายเดวิด กล่าว
นายเดวิด กล่าวอีกว่า ภายหลังควบรวมกิจการระหว่าง บมจ.เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต (FWD Life) และ บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต (SCB Life) อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ต.ค.63 FWD ประกันชีวิตได้ดำเนินกลยุทธ์เสริมความแข็งแกร่งจากภายใน สร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นหนึ่งเดียวผ่านการปลูกฝังแนวคิดยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (customer-led) ปรับระบบการทำงานภายในให้มีความคล่องตัว ยืดหยุ่น และพัฒนาศักยภาพพนักงานให้มีความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง มีอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า พร้อมกับการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความเข้าใจและตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง
สำหรับการปรับตัวสู่ภายนอก FWD ประกันชีวิต ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาช่องทางการให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาบริการ “FWD Care” เป็นรายแรกของธุรกิจประกันชีวิต ที่ให้ความดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านบริการพิเศษต่างๆ หลังจากที่ลูกค้าได้รับค่าสินไหมทดแทน ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก
“ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ถือเป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับทุกธุรกิจ การปรับตัวได้รวดเร็วและนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนจะสามารถทำให้อยู่รอด โดย FWD เข้าใจสถานการณ์และมองเห็นโอกาสในการปรับกลยุทธ์สู่ดิจิทัลแบรนด์ในทุกมิติ มีการพัฒนาช่องทางการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เน้นวิธีการสื่อสารเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ชัดเจนขึ้น ด้วย content ให้เข้าใจง่าย “
นายเดวิด กล่าว
ณ สิ้นไตรมาส 3/64 ที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ยประกันชีวิตรับใหม่ที่ 11,138 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 15% เป็นอันดับ 2 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิต แบ่งเป็น เบี้ยประกันชีวิตรับเทียบเท่าเบี้ยรับรายปีจากช่องทางธนาคาร (Bancassurance) 9,338 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ 29% เบี้ยประกันชีวิตรับเทียบเท่าเบี้ยรับรายปีที่มาจากตัวแทนประกันชีวิต 1,163 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการขยายตัวเติบโตจากปีที่ผ่านมาถึง 50% โดยมีจำนวนตัวแทนประกันชีวิตในปัจจุบัน 4,615 ราย และมีเบี้ยประกันชีวิตรับเทียบเท่าเบี้ยรับรายปี จากช่องทางอื่นๆ อีก (Alternative) 576 ล้านบาท รวมทั้งเบี้ยประกันชีวิตรับเทียบเท่าเบี้ยรับรายปี จากช่องทาง Digital 60.2 ล้านบาท ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 43%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 64)
Tags: FWD, ประกันชีวิต, เดวิด โครูนิช, เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต, แพลตฟอร์มดิจิทัล