สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยร่างแถลงการณ์ของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า เหล่าผู้นำ EU จะประกาศการเห็นชอบเรื่องลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมัน, ก๊าซ และถ่านหินของรัสเซียในที่ประชุมสุดยอดในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนด้านนโยบายที่มีต่อรัสเซียจากผลพวงของการรุกรานยูเครน
ทั้งนี้ บรรดาผู้นำ EU จะจัดการประชุมที่พระราชวังแวร์ซายในวันพฤหัสบดี (10 มี.ค.) และศุกร์ (11 มี.ค.) เพื่อหารือเรื่องการยกระดับขีดความสามารถด้านกลาโหมและการสมัครของยูเครนเข้าเป็นสมาชิก EU
ก่อนหน้านี้ EU ประสบปัญหาจากภาวะขาดแคลนไมโครชิปและเวชภัณฑ์ในช่วงโควิด-19 ระบาด ดังนั้น เหล่าผู้นำจึงวางแผนหารือวิธีที่จะทำให้ EU เป็นอิสระจากบรรดาซัพพลายเออร์โลกมากยิ่งขึ้นในภาคส่วนเหล่านี้และด้านอาหาร
“เราเห็นชอบกันว่าจะลดพึ่งพาการนำเข้าก๊าซ, น้ำมัน และถ่านหินของรัสเซีย” ร่างแถลงการณ์ของผู้นำ EU ระบุ
อย่างไรก็ดี ภารกิจดังกล่าวถือเป็นเรื่องยาก เพราะ EU นำเข้าก๊าซ 45%, น้ำมันประมาณ 1 ใน 3 และถ่านหินเกือบครึ่งหนึ่งจากรัสเซีย กรณีดังกล่าวทำให้ EU เผชิญความเสี่ยง หากรัสเซียตัดสินใจตอบโต้นโยบายของ EU ด้วยการจำกัดการส่งออก
การตัดสินใจเรื่องลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียถือเป็นจุดเปลี่ยน เพราะเมื่อปีที่แล้ว เยอรมนียังคงผลักดันให้ท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 2 ของรัสเซียเปิดดำเนินการ ในขณะที่อิตาลี, ออสเตรีย หรือฮังการี ซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศสมาชิก EU ที่พึ่งพาอุปทานพลังงานจากรัสเซียในระดับสูงไม่ได้เตรียมทางเลือกอื่นไว้
สหรัฐพยายามผลักดันให้พันธมิตรยุโรปผนึกกำลังคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้กรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครนเพิ่มเติม โดยแหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนพร้อมที่จะออกมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แม้จะไม่ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรในยุโรปก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มี.ค. 65)
Tags: รัสเซีย, สหภาพยุโรป, อียู