นายสุกิจ งามสง่าพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.ดุสิตธานี (DUSIT) เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 30-35% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน YoY โดยฟื้นตัวใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 โดยไตรมาส1/66 เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่งผลให้ผลประกอบการของธุรกิจในบริษัทดีขึ้น รวมทั้งธุรกิจอาหาร ทั้งจากการให้บริการจัดการอาหารแก่โรงเรียนนานาชาติและธุรกิจเฟรนไชส์ร้านขนมอบที่บริษัทได้เข้าลงทุนเมื่อกลางปี 65 เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนธุรกิจโรงแรมมีการเติบโตจากการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นคาดว่ารายได้น่าจะอยู่ใกล้เคียงกับสถานการณ์ก่อนเกิดโควิด-19 โดยไตรมาส 1/66 รายได้จากธุรกิจโรงแรมอยู่ที่ 1,192 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88% YoY อัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) อยู่ที่ 75% เพิ่มขึ้น 58% YoY และรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) 3,289 บาทเพิ่มขึ้น 76.4% YoY สูงที่สุดในรอบ 3 ปี แสดงถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโรงแรม
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของธุรกิจได้แก่ ภาวะเงินเฟ้อ การขาดแคลนแรงงานในธุรกิจโรงแรม ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างยูเครน และรัสเซีย ซึ่งบริษัทได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งความคืบหน้าของนโยบายภาครัฐจากรัฐบาลชุดใหม่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม
สำหรับแผนการขยายธุรกิจ ปี 66-68 บริษัทจะเปิดโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งจะเปิดในส่วนพื้นที่โรงแรมภายในปี 67 ทั้งนี้พื้นที่โครงการที่อยู่อาศัยในเดือนพฤษภาคม ขายไปแล้ว 62% ของยูนิตทั้งหมด รายได้ประมาณ 11,000 ล้านบาท คาดว่ายอดขายน่าจะเติบโตขึ้น ตั้งเป้าปีนี้ยอดขายปิดที่ 70-75 %
ในไตรมาส 1/66 บริษัมีรายได้ 1,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% YoY เนื่องจากเป็นช่วงฤดูการของธุรกิจโรงแรม ในขณะที่ EBITDA จากการประกอบธุรกิจหลักอยู่ที่ 354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.5 % YoY ซึ่งบริษัทตั้งเป้าปี 66 EBITDA Margin อยู่ที่ 15-18%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 66)
Tags: DUSIT, ดุสิตธานี, สุกิจ งามสง่าพงษ์, หุ้นไทย