ช็อกทั้งวงการหลัง CZ, Changpeng Zhao ออกมายอมรับผิด พร้อมจ่ายค่าปรับกว่า 4,300 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินบาทกว่า 150,000 ล้านบาท เขาทำผิดข้อหาอะไร?? ทำไมถึงโดนปรับสูงขนาดนี้??
ช็อก CZ Binance ยอมรับทำผิดจริงจ่ายค่าปรับ 4,300 ล้านดอลลาร์ พร้อมก้าวลงจากตำแหน่ง CEO
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์สำนักข่าว Bloomburg รายงานข่าวว่าทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐเรียกร้องค่าปรับกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ ในกรณีข้อกล่าวหาทางอาญาต่าง ๆ ของ Binance Holding สิ่งนี้เหมือนเป็นการจุดประเด็น เพราะนาย Changpeng Zhao หรือ CZ ไม่ได้มีการออกมาให้ข้อมูลหรือว่าปฏิเสธใด ๆ
แต่ช่วงเช้าของวันพุธเวลาบ้านเราประมาณ 03.00 น.ก็มีเหตุการณ์ให้ตกใจกันอีกครั้ง เมื่อ CZ ซึ่งเป็น CEO ของ Binance ประกาศทางแพลตฟอร์ม X ว่าจะลดบทบาทในการทำงาน พร้อมทั้งแต่งตั้ง Richard Teng อดีต Head of Regional Markets ขึ้นตำแหน่ง CEO แทน
เนื้อหาในโพสต์เปิดเผยถึงความรู้สึกส่วนตัว พร้อมทั้งยอมรับว่าเขากระทำผิดจริงและต้องแสดงความรับผิดชอบ แต่ไม่ได้บอกว่าเรื่องใด นอกจากนี้ ยังมีการระบุอย่างชัดเจนถึงกระทรวงยุติธรรมว่าอย่ากล่าวหา Binance ว่าเราเอาเงินของ user ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง และ Binance ไม่เคยครอบงำตลาดแต่อย่างใด
หลังจากนั้น CZ บอกว่าเขาจะเริ่มพักผ่อนอย่างจริงจัง รวมไปถึงการปิดมือถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีครึ่งด้วย และจะหันไปให้ความสนใจกับ DeFi ให้มากขึ้น
สอดคล้องกับรายงานข่าวจาก Bloomburg ที่ระบุว่า CZ ได้สารภาพว่ากระทำผิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินและละเมิดการคว่ำบาตรของสหรัฐ ตามแผนไกล่เกลี่ยเพื่อยุติข้อพิพาทกับสหรัฐ ทาง Binance จะจ่ายค่าปรับ 4,300 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.5 แสนล้านบาท นับเป็นข้อไกล่เกลี่ยระดับองค์กรครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกัน CZ ก็จะจ่ายเงินส่วนตัว 50 ล้านดอลลาร์ และลงจากตำแหน่ง CEO เพื่อให้ Binance ดำเนินธุรกิจในสหรัฐต่อไปได้ตามเดิม
ในส่วนของการยอมรับผิด CZ รับสารภาพต่อศาลรัฐบาลกลางของสหรัฐในเมืองซีแอตเทิลว่าได้ละเมิดกฎหมายว่าด้วยความลับทางธนาคาร โดยข้อตกลงยุติคดีความครั้งนี้เป็นข้อตกลงระหว่าง Binance และ CZ กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ กระทรวงการคลังสหรัฐ และคณะกรรมาธิการการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐ (CFTC) ซึ่งการขึ้นศาลครั้งนี้ Binance ได้ยอมรับว่าบริษัทได้อนุญาตให้กลุ่มฮามาสและกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ ทำธุรกรรมคริปโทฯ บนแพลตฟอร์มของ Binance
เนื้อความในเอกสารที่ยื่นต่อศาลระบุว่า Binance ถูกตั้งข้อหา 3 กระทงด้วยกัน ได้แก่ การต่อต้านกฎหมายฟอกเงิน การดำเนินธุรกิจโอนเงินโดยไม่มีใบอนุญาต และละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ โดย Binance จะจ่ายค่าปรับตามกฎหมายคดีอาญาเป็นเงิน 1,8000 ล้านดอลลาร์สหรัฐและถูกริบทรัพย์อีก 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นที่มาของ 4,300 ล้านดอลลาร์นั่นเอง
ในรายงานระบุว่า CZ เผชิญโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี แต่มีแนวโน้มจะติดคุกจริงไม่เกิน 18 เดือนตามข้อตกลงขอลดหย่อนผ่อนโทษกับรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งจะช่วยให้ CZ รอดพ้นจากบทลงโทษรุนแรงที่อาชญากรด้านคริปโทฯ ชื่อดังรายอื่น ๆ เคยประสบมา
และตามข้อตกลงขอลดหย่อนผ่อนโทษที่ทำกับรัฐบาลสหรัฐ CZ จะต้องก้าวลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ Binance และไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับการบริหารจัดการบริษัทเป็นเวลา 3 ปี ขณะที่ Richard Teng จะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Binance แทน CZ
“Binance ไต่อันดับขึ้นเป็นบริษัทซื้อขายคริปโทฯ รายใหญ่ที่สุดของโลกได้ส่วนหนึ่งก็เพราะการก่ออาชญากรรม เวลานี้ไบแนนซ์กำลังเผชิญบทลงโทษระดับองค์กรครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐ” นายเมอร์ริก การ์แลนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ระบุ
นับว่าเป็นข่าวใหญ่เลยที่ CZ ที่เปรียบเสมือน iconic ของ Binance ยอมรับว่าทำผิดจริง สิ่งนี้จะบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน Binance มากน้อยแค่ไหน ต้องรอติดตาม
SPOT Bitcoin ETF, ต้องรออีกนานแค่ไหน!?
อย่างที่รู้กันว่าขณะนี้บริษัทจัดการเงินทุนระดับโลกต่างกำลังยื่นขออนุมัติ SPOT Bitcoin ETF ไม่ว่าจะเป็น Blackrock, Fidelity หรือแม้แต่ Ark Invest ที่ยื่นขออนุมัติมาตั้งแต่ต้น ๆ ก่อนคนอื่น
ล่าสุด แม่ทัพสาวของ Ark Invest อย่าง Cathie Wood ที่ได้จับมือร่วมกับ 21shares ในการยื่นขอ SPOT Bitcoin ETF ได้ยื่นหนังสือแก้ไขเพิ่มเติมเป็นรอบที่ 3 ซึ่งหากกอง ETF ได้รับอนุมัติก็จะทำการซื้อขายที่ BZX Exchange ของ Chicago Board Options Exchange ภายใต้ตัวย่อ ARKB ตามเอกสารที่กำหนด และมีเส้นตายการอนุมัติในวันที่ 11 ม.ค.67
Eric Balchunas นักวิเคราะห์ของ Bloomberg ก็มีการออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ก็ตกใจเหมือนกันกับเอกสารที่มากมาย แต่ยิ่งมีการอัปเดตมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะจะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเตรียมพร้อมเพื่อขออนุมัติจาก ก.ล.ต.สหรัฐฯ จริง ๆ
ก.ล.ต. ออกเกณฑ์ใหม่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องแจ้งความเสี่ยงแก่ลูกค้า
จากที่ก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีการออก hearing เกี่ยวกับการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งนับว่าแตกต่างกับสินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ เพราะว่าต้องมีการเก็บไว้ใน Wallet หรืออาจต้องไปนำฝากกับ Custodian ด้วย
ล่าสุด ทาง ก.ล.ต. ได้ประกาศหลักเกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูล การแจ้งความเสี่ยงแก่ลูกค้า สำหรับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ดังนี้
1. ผู้ประกอบธุรกิจ มีความจำเป็นต้องแจ้งความเสี่ยงด้านฐานะการเงิน การเก็บรักษาสินทรัพย์ และการบริหารความเสี่ยงแก่ลูกค้า
2. ผู้ประกอบธุรกิจ ต้องเปิดเผยข้อมูลเรื่องการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลไว้กับผู้ให้บริการอื่น และรายชื่อ exchange อื่นที่มีการเชื่อมต่อให้บริการด้วย
3. การเปิดเผยข้อมูลของ 2 ข้อ ข้างต้น ต้องดำเนินการผ่านเว็บไซด์ และแอปพลิเคชัน ให้ลูค้าทุกรายทราบรวมถึงแจ้งกับลูกค้าใหม่ ในระหว่างขั้นตอนการเปิดบัญชีด้วย
ใครที่ทำธุรกรรมกับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเจ้าไหนแล้วไม่เห็นว่ามีการเปิดเผยความเสี่ยง แจ้ง ก.ล.ต. ได้เลย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 66)
Tags: Binance, bitcoin, Cryptocurrency, CryptoShot, ETF, SCOOP, ก.ล.ต., คริปโทเคอร์เรนซี, ค่าปรับ, สินทรัพย์ดิจิทัล