หลายคนสงสัยว่าทำไมผ่าน Bitcoin Halving ไปแล้วราคาไม่เป็นขาขึ้น แถมยังมีแต่ข่าวร้ายในตลาดคริปโทฯ อย่างล่าสุด Exchange รายใหญ่อย่าง Binance ผู้บริหารเดิม Chaegpeng Zhao ที่จ่ายไปแล้ว 4,000 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ไม่สามารถเคลียร์กรณีที่เกิดขึ้นกับ SEC สหรัฐได้ สุดท้ายแล้วก็โดนศาลตัดสินจำคุก 4 เดือนอยู่ดี
ทางฝั่งตลาดฮ่องกง ที่มีการอนุมัติ Bitcoin และ Ethereum SPOT ETF อย่างเป็นทางการแล้ว แต่ Volume กลับบางตา ไม่เหมือนฝั่งตลาดสหรัฐ สาเหตุเพราะอะไรกันแน่??
จ่ายแต่ไม่จบ CZ โดนคุก 4 เดือน
จากกรณีของ Binance ที่ถูก SEC สหรัฐฟ้อง และได้มีการจ่ายค่าปรับไปแล้วกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ และขณะนี้ทางศาลสหรัฐได้มีการตัดสินโทษจำคุกแก่ Chaegpeng Zhao เป็นเวลา 4 เดือน ภายใต้ข้อหาที่ปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายใช้ exchange เป็นท่อน้ำเลี้ยง
งานนี้ทางอัยการขอให้ศาลลงโทษจำคุกกว่า 36 เดือน แต่ทางทนายความของ CZ ได้ขอให้ศาลรอลงอาญา จนในที่สุด ศาลมีคำตัดสินโทษจำคุก 4 เดือน
ทางด้าน CZ ได้มีการกล่าวว่า เขาขอโทษสำหรับการตัดสินใจที่ผิดพลาด และขอยอมรับผิดในสิ่งที่เขาทำไป
ทุกคนคิดว่ายังไงกันบ้างคะ คุณ CZ สมควรกับการรับโทษจำคุก 4 เดือนรึเปล่า??
ตลาดแดงเดือด Bitcoin และ Ethereum SPOT ETF ฮ่องกงยันไม่ไหว ซื้อขายวันแรก แค่ 11 ล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ทางตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ได้มีการเปิดให้ซื้อขาย Bitcoin Spot ETF และ Ethereum Spot ETF อย่างเป็นทางการแล้ว หลายคนจับตาดู Volume ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง จะคึกคักเหมือนฝั่งสหรัฐหรือไม่
และตัวเลขก็ได้ออกมาให้พวกเราเห็นกัน เมื่อมูลค่าการซื้อขายของ Bitcoin และ Ethereum Spot ETF ทั้งวัน มี Volume เพียงแค่ 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่างกับฝั่งสหรัฐที่เปิดให้ซื้อขายวันแรกมีมูลค่าถึง 655 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
สาเหตุเกิดจากอะไร หรือเพราะช่วงนี้อยู่ในตลาดขาลง? หรือว่าติดที่นักลงทุนจีนยังซื้อไม่ได้ งานนี้คงต้องรอดูกันยาว ๆ
หมีแล้วไง!! พ่อใหญ่ Micheal Saylor เดินหน้าซื้อบิทคอยน์เพิ่มอีก 7 ล้านดอลลาร์
หากพูดถึงบริษัทที่ถือครองบิทคอยน์มากที่สุดในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น MicroStrategy และพ่อใหญ่ Michael Saylor ที่ยังคงทำสิ่งที่เขาทำอยู่เสมอ นั่นก็คือการซื้อบิทคอยน์เรื่อย ๆ โดยไม่สนว่าราคาตลาดจะเป็นอย่างไร
ล่าสุด MicroStrategy ได้ทำการซื้อบิทคอยน์เพิ่มอีกกว่า 122 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 7 ล้านดอลลาร์ และช่วงนี้เป็นช่วงประกาศงบพอดี หากดูจากงบไตรมาส 1 เราจะพบว่ารายได้รวมของบริษัท MicroStrategy ลดลงกว่า 5% แน่นอนว่า Michael Saylor ก็ยังคงซื้อต่อเนื่องอยู่ดี
ต้องบอกก่อนว่า MicroStrategy ยังคงใช้มาตรฐานบัญชีแบบเดิม ไม่ได้นำมาตรฐานทางบัญชีของสินทรัพย์ดิจิทัลฉบับใหม่มาใช้ ซึ่งมาตรฐานฉบับใหม่ จะมีการนำการเพิ่มขึ้นของมูลค่าตามราคาตลาด (Fair Value) ของ Bitcoin จำนวน 65% ในไตรมาสที่ผ่านมา มาพิจารณาร่วมด้วย
หากคำนวณภายใต้มาตรฐานบัญชีเดิม บริษัทจะถือครองบิทคอยน์ ที่ถูกบันทึกไว้อยู่ที่ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นราคา Bitcoin ละ 23,680 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งต่างจากมูลค่าตามราคาตลาด (Fair Value) ที่หากนำมาใช้จะอยู่ที่ 15,000 ล้านดอลลาร์ เลยทีเดียว
ปัจจุบัน MicroStrategy ถือครอง Bitcoin จำนวน 214,400 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 13,500 ล้านดอลลาร์ โดยราคาซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 35,180 ดอลลาร์ ทั้งนี้ บริษัทสามารถระดมทุนเงินได้ 1,500 ล้านดอลลาร์ จากการเสนอตราสารหนี้แปลงสภาพ 2 ครั้ง เพื่อซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 25,250 BTC ในไตรมาสแรก ทำให้เป็นไตรมาสที่ 14 ติดต่อกันของบริษัท ในการซื้อ Bitcoin เพิ่มลงในงบดุลของบริษัท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ค. 67)
Tags: bitcoin halving, CryptoShot, CZ, SCOOP, คริปโทเคอร์เรนซี, สหรัฐ, หุ้นไทย, ฮ่องกง