เป็นที่ฮือฮาเมื่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งข่าวว่าได้มีการประสานงานกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) เพื่อปิดกั้นช่องทางการเข้าถึงแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต ในที่นี้ องค์กรใดที่ทำธุรกิจที่มีลักษณะการให้บริการตรงกับที่ทาง ก.ล.ต. กำกับ แต่ว่าไม่มีใบอนุญาต ถือว่าเถื่อนหมด
แล้วทำไม ก.ล.ต. ต้องทำแบบนี้ด้วย? ทำเพื่ออะไร? สาเหตุหลัก ๆ ก็เพื่อป้องกันมิให้มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางในการนำทรัพย์สินจากการกระทำผิดไปฟอกเงิน อันเป็นการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ต่าง ๆ ที่เราทุกคนเจอกัน โดยทาง ก.ล.ต. ก็มีการดำเนินการไปในทิศทางเดียวกับที่ต่างประเทศใช้กัน อย่างฟิลิปปินส์
และสาเหตุที่เรื่องฮือฮาขนาดนี้ เพราะว่ามีชื่อของ Exchange ใหญ่ระดับโลกอย่าง Binance และ Bybit ติดอยู่ด้วยนั่นเอง ล่าสุด “อินโฟเควสท์” ได้สอบถามทาง ก.ล.ต. ว่าทำไมถึงต้องเป็น 2 exchange นี้? แล้วจะมีรายชื่อ exchange อื่นตามมาด้วยหรือไม่? นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และ โฆษกสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ชี้แจงถึงสาเหตุว่าที่เป็น 2 Exchange นี้เนื่องจากเป็นรายชื่อของ exchange ที่ทาง ก.ล.ต. เคยกล่าวโทษมาก่อน โดยขั้นตอนต่อไป จะเป็นไปตามกระบวนการของกระทรวง DE
งานนี้สายเทรดงานเข้าแล้ว เพราะคนไทยเราใช้กระดานเทรด Binance ค่อนข้างมาก หากแพลตฟอร์มโดนปิดกั้นการเข้าถึงจริงแล้วจะทำอย่างไร? ตามปกติขั้นตอนทั่วไป ทางกระทรวง DE จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาก่อน แล้วจะส่งเรื่องขึ้นให้ศาลท่านพิจารณาตามลำดับ สายเทรดคิดว่าอย่างไรกันบ้าง มหากาพย์เรื่องนี้จะจบยังไง ต้องรอติดตาม!!
หลายคนน่าจะจำเหรียญ GuildFi กันได้ เหรียญสาย Gaming น้ำดีฝีมือคนไทย ที่ลิสต์อยู่ที่กระดาน BITKUB ภายใต้ตัวย่อ GF ล่าสุดทาง GuildFi ได้ประกาศรีแบรนด์เป็น Zentry พร้อมคอนเซปต์ เป็น “The Gaming Superlayer” ที่มีโปรดักต์หลากหลาย เป็น Ecosystem ตอบโจทย์ Lifestyle ของคอเกม ผสมผสาน Entertainment, Investment และ Infrastructure เข้าด้วยกัน เพราะต่อไปนี้ การเล่นเกมจะไม่ใช่เพียงแค่ความบันเทิงเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป!!
ในส่วนของตัวย่อเหรียญก็จะมีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน โดยจำนวนเหรียญ 1 GF จะเท่ากับ 10 ZENT กลไกเดียวกับการแตกพาร์ของหุ้นเลย
ใครที่ถือ GF ไว้ ไม่ต้องทำอะไร รอเฉยๆ แต่ละ Exchange จะทยอยเปลี่ยนให้วันที่ 25 เมษายน 2024 เป็นต้นไป
จากที่ก่อนหน้านี้ ทางเราได้มีการรายงานเกี่ยวกับฝั่งฮ่องกง ว่าทางสำนักงาน ก.ล.ต. ของฮ่องกง มีการอนุมัติใบคำขออนุญาตเปิดให้บริการ Ethereum Spot ETF แล้ว!! ล่าสุดมีการเคาะวันเรียบร้อย โดยทางฮ่องกงจะมีการเปิดให้ซื้อขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ในวันที่ 30 เม.ย. นี้
ต้องบอกว่าฮ่องกงเป็นประเทศแรก ๆ ที่มีการเปิดซื้อขาย Ethereum Spot ETF น่าสนใจมาก ๆ แต่นักวิเคราะห์หลายท่านกลับมองว่า feedback การตอบรับจากนักลงทุน อาจไม่ได้ดีเท่ากับ Bitcoin Spot ETF ของฝั่งอเมริกา เนื่องจากมูลค่าตลาดที่ค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกันแล้ว อีกทั้งกองทุนของฮ่องกงทั้ง HashKey Capital และ Bosera จะใช้กลไกการซื้อขายแบบแลกเปลี่ยนสินทรัพย์อ้างอิง (in-kind subscription and redemption mechanism) ซึ่งอนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่เบื้องหลัง ETF กับหน่วยของกองทุน ETF ได้โดยตรง ซึ่งต่างจากกองทุน ETF ของสหรัฐฯ ที่ใช้กลไกการซื้อขายด้วยเงินสด
ในฝั่งประเทศไทย นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการและโฆษก ก.ล.ต.ออกมาเปิดเผยว่า ก.ล.ต. เตรียมเปิดเฮียริ่ง (Hearing) ในเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อเปิดโอกาสกองทุนสามารถเข้าลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้ โดยจะปรับปรุงหลักเกณฑ์ กำหนดประเภทของกองทุน มูลค่าเงินลงทุน และความเสี่ยงของการลงทุน เป็นต้น
สินทรัพย์ดิจิทัลในประเด็นนี้จะรวมทั้ง Investment Token และคริปโทเคอร์เรนซี สามารถลงทุนได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ถือเป็นการเปิดโอกาสและสร้างทางเลือกให้กับนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยที่มีการลงทุนผ่านกองทุนรวมมากขึ้นอีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 67)
Tags: Cryptocurrency, CryptoShot, SCOOP, คริปโทเคอร์เรนซี, สินทรัพย์ดิจิทัล