โบรกเกอร์ชูหุ้น บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) โดดเด่นในแง่ของผลดำเนินการที่จะฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดดในปี 67 จากยอดขายและยอดโอนที่ดินกลับมาเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ประกอบการรถ EV ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักเดินหน้าขยายลงทุน หลังจากรัฐประกาศมาตรการสนับสนุนครั้งใหม่ออกมา ประกอบกับ ราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นไปตอบรับปัจจัยบวกมากเท่ากับหุ้นตัวอื่นในกลุ่มนิคมฯ ทำให้ยังมีอัพไซด์ที่น่าสนใจ
นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย มองแนวโน้มยอดขายที่ดินในช่วงไตรมาส 4/66 มีโอกาสกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น จากยอดขายที่ดินในไทยและเวียดนามที่จะเริ่มเห็นการกลับมาเซ็นสัญญาซื้อขายกันอีกมาก หลังจากไตรมาส 3/66 ชะลอไป แต่ยังมีความท้าทายว่าจะทำได้ถึงเป้าหมายหรือไม่ จากการประเมินยอดขายที่ดินในไทย 9 เดือนคาดว่าจะทำได้ 1,025 ไร่ จากเป้าหมาย 1,500 ไร่ และในเวียดนามยังต้องลุ้นว่าจะทำได้ตามเป้า 120 เฮกเตอร์หรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นยังประเมินว่าทำได้ 50 เฮกเตอร์
อย่างไรก็ตาม ต้องมองข้ามภาพรวมของปีนี้ไป และมองโอกาสในการกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 67 คาดว่าจะเห็นการเร่งตัวขึ้นของยอดขายและยอดโอน ซึ่งจะสูงกว่าเป้าหมายของบริษัท ประกอบกับนโยบายผลักดันการลงทุนของภาครัฐที่จะออกมาเสริม ซึ่งจะทำให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่นิคมในชลบุรี และระยอง ที่จะได้อานิสงส์ ประกอบกับราคาหุ้น AMATA ยังไม่เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ ทำให้ยังเห็นอัพไซด์ โดยให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28.50 บาท/หุ้น
ด้าน น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า AMATA ยังมีความน่าสนใจจากราคาหุ้นที่ยังไม่ปรับเพิ่มขึ้นไปมากเมื่อเทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่มนิคมฯ และมองปัจจัยพื้นฐานจากนโยบายภาครัฐที่จะมีการสนับสนุนการลงทุนในปี 67 มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ EV ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ AMATA ทำให้มีโอกาสได้รับผลบวกของกลุ่มลูกค้ารถ EV ที่เข้ามาขยายการลงทุนในประเทศไทย
แนวโน้มยอดขายของ AMATA ในปี 67 มีโอกาสทำได้สูงกว่าปี 66 ที่ตั้งเป้า 1,500 ไร่ อีกทั้งหากมีลูกค้าเข้ามาในนิคมอุตสาหกรรมมากขึ้น จะมีผลบวกต่อรายได้ที่มาจากธุรกิจสาธารณูปโภคในนิคมที่สูงขึ้นตาม และยังมียอดขายที่ดินจากเวียดนามที่คาดว่าจะกลับมาฟื้นในปี 67 หลังจากที่ปีนี้การลงทุนใหม่ของผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามชะลอไป ทำให้จะเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นของผลประกอบการในปี 67 และแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28 บาท/หุ้น
นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า ยอดขายและยอดโอนของ AMATA จะเริ่มเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4/66 ต่อเนื่องไปในช่วงต้นปี 67 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรถ EV ที่จะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่ได้มีการเดินหน้าขยายการลงทุน มีการซื้อที่ดินและโอนที่ดินนิคมอุตสาหกรรมมากขึ้น จากการมาตรการการสนับสนุนการลงทุนของรัฐบาล ทำให้เป็น,ลูกค้ากลุ่มหลักที่จะเข้ามาช่วยเร่งยอดขายและยอดโอนที่ดินให้กับ AMATA ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี และในปี 67
ขณะที่ภาพรวมของกำไรในปี 67 คาดว่าจะเห็นการเติบโตกลับมาดีขึ้น จากปี 66 ที่ชะลอตัวลง รับผลการขายและการโอนที่ดินชะลอตัว ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นได้รับรู้ปัจจัยดังกล่าวไปแล้ว ทำให้ราคาหุ้นไม่ได้ตอบรับเชิงบวกมากจากปัจจัยบวกที่เข้ามาก่อนหน้ามากเท่ากับหุ้นอื่นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรม ทำให้ยังมีความน่าสนใจและมีอัพไซด์ของราคาเป้าหมายที่ 29.40 บาท/หุ้น และคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ราคาปิดวันนี้ (13 พ.ย.)อยู่ที่ 23.10 บาท ลดลง 0.20 บาท (-0.86%)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 66)
Tags: AMATA, ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, หุ้นไทย, อมตะ คอร์ปอเรชัน