บมจ.ช ทวี (CHO) เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผน Road map ต่อไปอีก 10 ปีข้างหน้าภายใต้ CHO Tech Riders 2030 โดยจะเป็นการเปลี่ยนผ่านจากบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม ให้เข้าสู่บริษัทเทคโนโลยี แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลาช่วงเวลาละประมาณ 3 ปีเศษ รวมระยะเวลา 10 ปี โดย CHO ได้เริ่มพัฒนาโครงสร้างนี้มาตั้งแต่ปี 63 สินค้าของบริษัทจะถูกจัดกลุ่มใหม่ เป็นสินค้าเดิม และสินค้าใหม่ที่เกิดจากประสบการณ์ร่วมกับการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยี
ทั้งนี้ CHO ตั้งเป้าว่าจะย้ายกลุ่มจากกลุ่มอุตสาหกรรม ไปเป็นกลุ่มเทคโนโลยี และย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ไปสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในอนาคตข้างหน้า รวมถึงการปรับโครงสร้างของบริษัทให้เหมาะสมตามสถานการณ์ของอนาคต
สำหรับการจัดกลุ่มสินค้าของ CHO ในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีการปรับเป็น 3 กลุ่ม โดยจะมีสินค้ากลุ่มเดิม กลุ่มใหม่ และกลุ่มอนาคต โดยกลุ่มเดิมจะมี 4 โครงการใหญ่ กลุ่มใหม่จะมี 4 โครงการใหญ่ และกลุ่มอนาคตอีก 3 กลุ่มโครงการใหญ่
กลุ่มเดิม
– ศูนย์ซ่อมครบวงจร 24 ชั่วโมง “สิบล้อ 24” ยังสามารถเสริมเทคโนโลยีทำให้มีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต
– งานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ยังคงรักษาไว้เนื่องจากสินค้า เช่น เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง OPV ยังมีศักยภาพที่จะสามารถทำการส่งออกไปสู่ประเทศต่างๆ ได้
– การจัดการเดินรถโดยสารแบบครบวงจร ด้วยระบบ CHO Smart Transit (CST) ยังคงเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากเป็นสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีเสริม ทำให้ยากต่อการลอกเลียนแบบ
– อุตสาหกรรม Ground Support Equipment (GSE) ในสนามบิน ซึ่ง CHO เป็นผู้นำด้านธุรกิจด้านนี้อยู่ คาดว่าน่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจากโควิด โดย CHO มีการวิจัย และพัฒนาให้เป็นระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
กลุ่มใหม่
– อุตสาหกรรมระบบราง และการบริหารจัดการการเดินรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail Transit (LRT))
– อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับอนาคต ปัจจุบันมีการร่วมพัฒนาทั้งรถยนต์เชิงพาณิชย์ทุกขนาด รวมถึงรถจักรยานยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน
– การจัดการระบบ Back End โดยใช้เทคโนโลยี Block Chain เช่น ระบบตั๋วรถโดยสาร
– การบริหารจัดการระบบ EV Charging Station
– อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเมือง Smart City ทั้ง 7 ด้าน
สำหรับกลุ่มอนาคต METAVERSE ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวันนี้โลกกำลังเกิดขึ้นอีกดินแดนหนึ่ง คือ โลกเสมือนจริงทางดิจิทัล ที่ใช้ AR VR เข้าไปทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการสร้างอาชีพในโลกดังกล่าว ซึ่ง CHO ได้ศึกษา และได้เริ่มร่างแผนธุรกิจในลักษณะนี้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว รวมถึง FINTECH, DeFi, NFT ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคืออุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเงินแห่งอนาคต
โครงการที่ CHO ได้เริ่มทดสอบดำเนินการในส่วนนี้ไปแล้ว ที่จะเป็นการเชื่อมต่อกับโลก METAVERSE แบบไร้รอยต่อ เช่น การนำทรัพย์สินที่มีทะเบียนในปัจจุบันมาแปลงเป็น NFT เป็นต้น และในส่วน EV Autonomous (ยานยนต์ไร้คนขับ) เป็นการวิจัยต่อยอดจากการพัฒนารถไฟฟ้า และได้มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างยานยนต์ไร้คนขับซึ่งจะมีการทดสอบในประเทศไทยในปี 67
CHO คาดว่าผลจากการก้าวตามแผน CHO Tech Riders 2030 นั้นจะทำให้ทางบริษัทเป็นส่วนหนึ่งในระบบนิเวศน์รถไฟฟ้าของประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาลในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ซึ่งจะเปลี่ยนจากกลุ่มอุตสาหกรรมปัจจุบัน คือ สินค้าอุตสาหกรรม เป็นกลุ่มเทคโนโลยีในอนาคต โดยสินค้าอนาคต การก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม METAVERSE และ FINTECH นั้น จะทำให้ทาง CHO สามารถสร้างรายได้จาก Virtual Income ที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนของรายรับ และกำไรให้กับ CHO โดย CHO จะเป็นบริษัทที่พร้อมก้าวทันกับอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีในอนาคตต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ต.ค. 64)
Tags: CHO, mai, SET, ช ทวี, สินค้าอุตสาหกรรม, หุ้นไทย, อุตสาหกรรม